รายงานข่าวจากต่างประเทศแจ้งว่า คดีของนาย คาร์ลอส กอส์น อัยการของประเทศญี่ปุ่นได้ออกหมายจับ นางแครอล กอส์น ภรรยาของ นาย คาร์ลอส กอส์น อดีตประธานกับซีอีโอของบริษัทนิสสัน ผู้ถือสัญชาติเลบานอน ฝรั่งเศส บราซิล และผู้ต้องหาหลบหนีคดีทุจริตแล้ว ด้วยข้อหาให้การเท็จต่อศาลกรุงโตเกียว ระหว่างการพิจารณาคดีของนายกอส์นเมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หมายจับดังกล่าวกล่าวหา นางแครอล ว่า เธอโกหกว่าไม่รู้จักหรือไม่ได้พบกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ได้รับเงินจากบริษัทนิสสัน ซึ่งส่วนหนึ่งของเงินดังกล่าวถูกส่งต่อให้แก่บริษัทอีกแห่งที่นายกอส์นเป็นเจ้าของ ระหว่างขึ้นศาลในเดือนเมษายน 2562 โดยในครั้งนั้นอัยการยึดหนังสือเดินทางสัญชาติเลบานอนของเธอเอาไว้ แต่ไม่ได้ยึดพาสปอร์ตสัญชาติอเมริกัน
สำหรับ นายกอส์น ถูกจับในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ในข้อหาทุจริตทางการเงิน แจ้งรายได้ตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง และโยกย้ายเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯของบริษัทนิสสันไปเข้าบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ จนเขาถูกปลดออกจากตำแหน่งซีอีโอนิสสัน และประธานกลุ่มพันธมิตรค่ายรถยนต์ ที่ร่วมกับ เรโนต์ กับมิตซูบิชิ
อย่างไรก็ตาม นายกอส์น ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวในเวลาต่อมา แต่ถูกห้ามไม่ให้พบกับภรรยา และถูกจับตาดูอย่างเข้มงวด ทว่า ในวันสิ้นปี 2562 เขาสร้างวีรกรรมที่ลือลั่นไปทั่วโลก ด้วยการหนีประกัน แล้วขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปยังตุรกี จากนั้นเดินทางต่อไปยังประเทศเลบานอน และ นางแครอล ได้เดินทางมาสมทบที่นั่น
ท่ามกลางความตกใจของทางการญี่ปุ่นว่าเขาเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างไร เพราะหนังสือเดินทางของ กอส์น อยู่ที่ทนายทั้ง 3 เล่ม กระทั่งมีข่าวลือว่า เขาซ่อนตัวอยู่ในกล่องเครื่องดนตรี และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกหมายจับ คาร์ลอส กอส์น ทันที ขณะที่ตำรวจสากลได้ออกหมายแดงให้เลบานอนจับตัว คาร์ลอส กอส์น แต่ด้วยความที่ นาย คาร์ลอส กอส์น ถือสัญชาติเลบานอน กระบวนการทางกฏหมายจึงซับซ้อน และไม่สามารถจับตัวเขาส่งกลับไปญี่ปุ่นได้ง่ายๆ