ท่าอากาศยานชางงี สนามบินสิงคโปร์ เริ่มนำเซนเซอร์ตรวจจับไร้สัมผัส และอุปกรณ์อื่นๆ มาใช้บริการผู้โดยสารแบบไม่มีการสัมผัสแตะต้องกันเพื่อความปลอดภัย ท่าอากาศยานชางงีระงับการให้บริการอาคารผู้โดยสาร 2 แห่ง จากทั้งหมด 4 แห่งชั่วคราว สืบเนื่องจากการระบาดของโรค โควิด19
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมกลับมาให้บริการการเดินทางทางอากาศตามปกติอีกครั้ง อาทิ การติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับไร้สัมผัสชุดใหม่ที่ตู้บริการอัตโนมัติของท่าอากาศยาน เพื่อให้ผู้เดินทางเช็กอินหรือลงทะเบียนโหลดสัมภาระได้โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจออิเล็กทรอนิกส์
ขณะเดียวกันยังมีการนำเซนเซอร์อินฟราเรดมาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารเลือกรายละเอียดการเดินทางได้เพียงชี้นิ้วใกล้หน้าจอโดยไม่ต้องสัมผัส โดยเป็นการนำเซนเซอร์ลักษณะนี้มาใช้ในสนามบินทั่วไปเป็นครั้งแรก สำหรับผู้ที่ต้องการเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า จะมีการติดตั้งแผ่นอะคริลิกใสกั้นระหว่างผู้โดยสารและผู้ให้บริการ
นอกจากนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะใช้ระบบระบุข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลระบบใหม่ ซึ่งนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าและม่านตามาใช้เป็นวิธีหลักในการยืนยันตัวตน แทนที่การสแกนลายนิ้วมือแบบเดิม
รวมถึงการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่ท่าอากาศยาน โดยหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัตโนมัติในอาคารผู้โดยสารถูกพัฒนาด้วยการติดตั้งหัวฉีดละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อเสริมการป้องกันตามพื้นพรมและพื้นปกติระหว่างการทำความสะอาด
อีกทั้งกำลังทดสอบการใช้งานหลอดไฟแอลอีดีฉายรังสียูวี-ซี (UV-C) สำหรับฆ่าเชื้อบริเวณราวจับของบันไดเลื่อน และทดสอบการใช้งานเทคโนโลยีอินฟราเรดไร้สัมผัสในลิฟต์ผู้โดยสาร ด้วยการสั่งงานปุ่มได้เพียงชี้นิ้วใกล้ๆ