ประท้วงฮ่องกง สถานการณ์รุนแรงขึ้นกว่าเดิม หลังรัฐบาลของฮ่องกงประกาศห้ามการสวมหน้ากากปิดหน้าในการชุมนุมสาธารณะ
ทั้งนี้ รัฐบาลฮ่องกงประกาศใช้กฎหมายฉุกเฉินซึ่งมีมานานตั้งแต่ยุคอาณานิคมเพื่อเรียกใช้มาตรการนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อระงับการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ซึ่งกฎหมายที่เรียกว่าพระราชกำหนดข้อบังคับฉุกเฉินไม่ได้ถูกใช้มานานเป็นเวลามากกว่า 50 ปี
สำหรับการห้ามสวมหน้ากาก เกิดจากการที่ผู้ประท้วงมักสวมใส่เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ถูกระบุตัวตนและจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ กฎหมายนี้จะอนุญาตให้ Carrie Lam ผู้นำของฮ่องกงมีอำนาจในการ “ออกข้อบังคับใดๆก็ตามที่เธอพิจารณาว่าเป็นที่น่าสิ่งดีเพื่อประโยชน์สาธารณะ” ในกรณีที่ “ฉุกเฉินหรือมีอันตรายต่อสาธารณะ” ซึ่งเป็นพระราชกำหนดข้อบังคับฉุกเฉินถูกใช้ล่าสุดในปี 2510 เพื่อช่วยหยุดการจลาจลที่รุนแรงในศูนย์กลางการค้า
ล่าสุด การแบนหน้ากากส่งผลให้สถานการณ์การประท้วงบนเกาะฮ่องกงรุ่นแรงขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่เห็นด้วย โดยวันนี้ 7 ตค. ทางการฮ่องกงมีการฟ้องกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งแล้ว หลังละเมิดกฏหมาย และยังคงใส่หน้ากากชุมนุมอยู่
บทความนี้แปลและเขียนโดยทีมข่าว Bright Today