ตำรวจ ฮ่องกง จับกุมผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยกว่า 370คน ที่ออกมาชุมนุมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 23 ปีของการส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีนจากอังกฤษ โดยตำรวจระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้ได้ฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคง ชุมนุมเกินกว่า 50 คน ก่อความไม่สงบในที่สาธารณะและครอบครองอาวุธ หลังจีนได้เพิ่งประกาศ ใช้กฎหมายความมั่นคง เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา

เหตุประท้วงในฮ่องกงเมื่อวานนี้ ได้เกิดการปะทะกับตำรวจและกลุ่มผู้ประท้วง โดยตำรวจต้อง ใช้แก๊สน้ำตา และสเปรย์พริกไทยเข้าสลายการชุมนุม ขณะเดียวกันมีรายงานตำรวจ 7 นายบาดเจ็บจากการปะทะกัน โดยในจำนวนผู้ถูกจับกุมกว่า 370 คน มี 10 คนที่ถูกจับกุม ฐานฝ่าฝืนกฎหมายความมั่นคง และมี 1 คนที่ถูกจับกุมฐานถือธงเรียกร้องเอกราชฮ่องกงด้วย

ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายความั่นคงดังกล่าวจะห้ามการล้มล้าง แบ่งแยกประเทศ และก่อการร้าย ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับชาวฮ่องกงที่ออกมาเคลื่อนไหว และประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย โดยผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายนี้จะมีบทลงโทษรุนแรงสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต
ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยได้ออกมาประณามกฎหมายความมั่นคงนี้ว่าเป็นการริดรอดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของชาวฮ่องกง แต่ทางการจีนก็เดินหน้าผลักดันและผ่านกฎหมายดังกล่าวออกมา จนมีผลบังคับใช้ในที่สุด
ด้านนางแครี่ แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารของฮ่องกงระบุว่า กฎหมายความมั่นคงดังกล่าวมีจุดประสงค์ เพื่อรักษาสเถียรภาพ และความสงบ โดยถือเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ครั้งสำคัญระหว่างรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง นับตั้งแต่การส่งมอบคืนเกาะฮ่องกง