โควิด19 สำนักข่าวซินหัว เผยแพร่บทความ ประเด็นก่อนหน้านี้ หลังจากสื่อมวลชนตะวันตกออกข่าว การระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด19 มีต้นกำเนิดในตลาดสดแห่งหนึ่งของเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของประเทศจีน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าข่าวของสื่อตะวันตก อาจจะไม่ใช่ข้อสรุปเนื่องจาก สื่อมวลชนจีน และ ญี่ปุ่น มองว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ไม่ได้มีต้นกำเนิดในจีนอย่างที่กำลังเข้าใจ แต่กลับอาจมีต้นกำเนิดจากประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ในอีกซีกโลกอย่างสหรัฐอเมริกา
ซึ่งเหตุผลนั้น เกิดจากการที่เหล่านักวิจัยทางการแพทย์ของจีนได้เก็บรวบรวมตัวอย่างพันธุกรรม ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน และลงความเห็นว่าไวรัสสายพันธุ์นี้ไม่ได้มีต้นกำเนิดที่ตลาดอาหารทะเลหัวหนาน แต่มีแหล่งที่มาหลากหลายอันมิอาจระบุได้
พร้อมกันนี้จากการอ้างอิงการศึกษานักวิจัยชาวจีน ก็บ่งชี้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ อาจเริ่มแพร่ระบาดระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์ จากพื้นที่อื่นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ขณะที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ก็ระบุว่าไวรัสโควิด19 แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จากการสัมผัสและการใกล้ชิดของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งจากผลการศึกษา สันนิษฐานว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายแรก คือการแพร่เชื้อจากคนงานหรือพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ซึ่งมีความแออัดของฝูงชน ที่เอื้อต่อการส่งต่อเชื้อไปยังกลุ่มลูกค้า นำไปสู่การระบาดวงกว้างในต้นเดือนธันวาคม 2019

และเมื่อมีข้อมูลจากหน่วยงานการแพทย์และหน่วยข่าวกรอง ของประเทศจีน ที่ได้ทำการค้นหาต้นกำเนิดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยเก็บตัวอย่างพันธุกรรมเกือบ 100 ตัวอย่างจาก 12 ประเทศใน 4 ทวีป พร้อมคัดแยกสายพันธุ์และการกลายพันธุ์ และการวิจัยตัวอย่างพันธุกรรมจากหลายประเทศ
ก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจีน เชื่อมั่นว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนหรือไม่นานหลังจบการแข่งขันกีฬาทหารโลก (Wuhan Military Games) ในเมือง อู่ฮั่น ประเทศจีน
ซึ่งจากเหตุผลนี้ ทางคณะผู้เชี่ยวชาญจีนได้ข้อสรุปเหมือนกับคณะนักวิจัยของญี่ปุ่นว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้มีต้นกำเนิดในจีน แต่ถูกนำพาเข้าสู่จีนจากนอกประเทศ
จากข้อมูลดังกล่าวก็สอดคล้องกับที่สื่อสัญชาติญี่ปุ่น รายงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ว่าไวรัสโคโรนามีต้นกำเนิดอยู่ในสหรัฐฯ ไม่ใช่ในจีน และผู้ป่วยชาวอเมริกันส่วนหนึ่งจากทั้งหมด 14,000 ราย ที่เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ ความจริงอาจเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา
ขณะที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริกา จะมีการตรวจสอบบุคคลที่มีอาการป่วยเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่เพื่อค้นหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก ซีแอตเติล ชิคาโก และนิวยอร์ก
พร้อมกันนี้ สื่อทางการจีนยังรายงานอีกว่า มีความเป็นไปได้ว่าตัวแทนผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากสหรัฐอเมริกา อาจเป็นผู้นำพาไวรัสโคโรนามาสู่อู่ฮั่น จนเกิดการกลายพันธุ์บางอย่างที่ทำให้มันร้ายแรงและติดต่อง่ายจนทำให้เกิดการระบาดวงกว้างในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงสื่อจีนและญี่ปุ่น ที่มองว่าเชื้อไวรัส โควิด19 อาจมีจุดเริ่มจากสหรัฐอเมริกา เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญนักไวรัสวิทยาประเทศไตัหวัน อธิบายรูปแบบของสารพันธุกรรม อันหลากหลาย ความเชื่อมโยงในลักษณะจุดต่อจุด และประเด็นหลักคือรูปแบบการติดเชื้อในไต้หวันอาจมีต้นตอมาจากสหรัฐอเมริกา
โดยตรรกะพื้นฐานคือตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่มีความหลากหลายของสายพันธุ์ไวรัสมากที่สุดต้องเป็นแหล่งต้นกำเนิดเพราะไวรัสสายพันธุ์หนึ่งๆ มิอาจเกิดขึ้นเองได้ ซึ่งเฉพาะสหรัฐอเมริกา มีไวรัสทั้งหมด 5 สายพันธุ์ ขณะที่เมืองอู่ฮั่นและพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของจีนมีไวรัสอันเป็นที่รู้จักเพียง 1 สายพันธุ์
เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ อังกฤษ เบลเยี่ยม และเยอรมนี ทำให้เกิดสมมติฐานว่ารูปแบบของสารพันธุกรรมในประเทศอื่นๆ อาจมีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้และไต้หวันมีรูปแบบสารพันธุกรรมไวรัสโคโรนาที่แตกต่างจากจีน คืออาจติดต่อกันง่ายกว่าแต่ร้ายแรงถึงเสียชีวิตน้อยกว่า โดยอัตราการเสียชีวิตอาจคิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของจีนเท่านั้น

ส่วนอิหร่านและอิตาลี แม้ไม่ได้อยู่ในการศึกษา แต่ปัจจุบันทั้งสองประเทศได้ถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโคโรนาในท้องถิ่นและพบว่ามีความแตกต่างจากจีน ซึ่งหมายความว่าไม่ได้มีต้นกำเนิดในจีนแต่ถูกนำเข้าจากแหล่งที่มาอื่น ซึ่งเป็นเรื่องน่าสังเกตว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอิตาลีคร่าชีวิตผู้ป่วยจำนวนมากเกือบเทียบเท่าในจีน สูงกว่าประเทศอื่นๆ สามเท่า ขณะที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในอิหร่านมีความร้ายแรงมากที่สุดด้วยอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 10-25
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการตรวจพบผู้ป่วยเสียชีวิตจาก “โรคพังผืดสะสมในปอด” เนื่องจากไม่สามารถหายใจได้ปกติมากกว่า 200 ราย แต่สภาพร่างกายและอาการทั้งหมดของผู้ป่วยเหล่านั้นมิอาจได้เกิดเพราะด้วยโรคดังกล่าว โดยนักไวรัสวิทยาไต้หวัน ได้เรียกร้องหน่วยงานสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา เพื่อทบทวนสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยเหล่านั้นว่ามาจากไวรัสโคโรนาหรือไม่ หลังจากอีกฝ่ายกลับอ้างว่าสาเหตุมาจากบุหรี่ไฟฟ้าและปล่อยให้เรื่องเงียบหายไป
ซึ่งจากการสืบสวนรายละเอียดผู้ป่วยชาวอเมริกันที่เสียชีวิตเหล่านั้นอย่างรอบคอบ พบข้อบ่งชี้ว่าไวรัสโคโรนาอาจแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่กลับถูกตีความให้เป็นโรคอื่น รวมถึงอาจถูกปกปิดอีกด้วย สอดคล้องกับสื่อจีนแห่งหนึ่ง รายงานกรณีผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกาเสียชีวิต โดยญาติได้รับแจ้งว่าสาเหตุมาจากโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ข้อมูลในใบมรณะบัตรกลับระบุว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากไวรัสโคโรนา

นอกจากนี้ นักไวรัสวิทยาชาวไต้หวัน ยังให้ข้อมูลอรกว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาอาจเริ่มต้นเร็วกว่าที่สันนิษฐานกัน ซึ่งอาจต้องมองย้อนกลับไปถึงเดือนกันยายน 2019 เมื่อพบชาวญี่ปุ่นที่ไม่เคยเดินทางเยือนจีนเลยติดเชื้อหลังกลับจากเกาะฮาวายของสหรัฐอเมริกา
เครดิตภาพ China Xinhua News