สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเปิดเผยว่า อัตราการ ฆ่าตัวตาย ของชาวญี่ปุ่นในเดือนพ.ย. ที่ผ่านมามีทั้งหมด 1,738 ราย ถือว่าเพิ่มสูงขึ้น 11.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีนี้ และถือเป็นอัตราที่เพิ่มสูงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยพบว่าในเดือนพ.ย. ที่ผ่านมามีผู้ฆ่าตัวตายที่เป็นชาย 1,169 ราย และเป็นผู้หญิง 629 ราย
ข้อมูลอัตราการฆ่าตัวตายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นยังระบุด้วยว่า ยอดการฆ่าตัวตายตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ย.ที่ผ่านมาได้เพิ่มเป็น 19,101 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 426 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่ซึ่งพบอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุดคือกรุงโตเกียว มีทั้งหมด 198 ราย ตามด้วยจังหวัดคานางาวะ 116 ราย และจังหวัดไซตามะ 107 ราย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้อัตราการฆ่าตัวตายในญี่ปุ่นเพิ่มสูงต่อเนื่องเป็นผลมาจากปัญหาความยากจน ปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัว ไปจนถึงการปัญหาการเลี้ยงดูอบรมบุตร ที่กลายเป็นปัญหารุนแรงมากขึ้นในช่วงที่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด19 ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นก็กำลังเร่งหามาตรการ และการรณรงค์ต่างๆเพื่อป้องกันและลดอัตราการฆ่าตัวตาย