สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่ากลุ่ม ตาลีบัน สามารถเข้ายึดครองจังหวัดกัซนี ในอัฟกานิสถานได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นจังหวัดที่ 10 ที่กลุ่มตาลีบัน เข้ายึดพื้นที่ได้สำเร็จภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ โดยจังหวัดกัซนีถือเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากอยู่บนทางหลวงเส้นสำคัญ เส้นทางระหว่างกรุงคาบูลและจังหวัดกันดาร์ฮาร์ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังฐานที่มั่นทางทหารในกรุงคาบูลด้วย
การที่กลุ่มตาลีบันสามารถเข้ายึดจังหวัดกัซนีสำเร็จทำให้มีความกังวลว่า เป้าหมายที่แท้จริงของกลุ่มตาลีบันคือการเข้ายึดกรุงคาบูล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน โดยในเวลานี้ กลุ่มตาลีบันสามารถเข้ายึดจังหวัดต่างๆในอัฟกานิสถานได้ 10 จังหวัด จากทั้งหมด 34 จังหวัด ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของทั้งประเทศ
กลุ่มติดอาวุธตาลีบันได้รุกคืบตามจังหวัดต่างๆอย่างรวดเร็ว สามารถยึดครองพื้นที่ใหม่ได้เกือบทุกวัน ภายหลังจากที่กองกำลังทหารสหรัฐฯและต่างชาติได้ถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถาน หลังจากดำเนินปฏิบัติการทางทหารในอัฟกานิสถานเป็นเวลานานถึง 20 ปี นับตั้งแต่เหตุวินาศกรรม11กันยา
“กลุ่มตาลีบัน” ก่อเหตุคาร์บอมหน้ารพ.อัฟกานิสถาน ขวางปชช.ไปเลือกตั้งประธานาธิบดี
ในเวลานี้ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มตาลีบันและกองทัพอัฟกานิสถานในจังหวัดกันดาฮาร์ ซึ่งกลุ่มตาลีบันอ้างว่าสามารถยึดเรือนจำได้สำเร็จแล้ว โดยเหตุปะทะจากที่กลุ่มตาลีบันบุกยึดครองเมืองต่างๆส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 1,000 ราย ในช่วงเดือนที่เดือนมา
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า กลุ่มตาลีบันได้บุกเคาะตามประตูบ้านต่างๆในพื้นที่จังหวัดที่ถูกครอง เพื่อลักพาตัวหญิงสาวโสดมาบังคับให้แต่งงาน หรือเป็นทาสบำเรอกามกับนักรบตาลีบัน โดยมีเด็กหญิงถูกบังคับให้แต่งงานด้วย ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่าเด็กและผู้หญิงที่ถูกบังคับให้แต่งงานมีอายุตั้งแต่ 12 ถึง 45 ปี
ทั้งนี้ เหล่าผู้หญิงและเด็กจะถูกปฏิบัติเหมือนเป็นสิ่งของที่ถูกแย่งชิงมาในช่วงสงคราม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชนะสงครามสามารถแบ่งกันเชยชมได้