นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้กล่าวว่าศูนย์พักพิงพายุ ไต้ฝุ่นฮากิบิส “ควรเปิดให้ทุกคน” หลังจากชายเร่ร่อนสองคนถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ให้เข้ามาหลบภัยภายในศูนย์ เพราะไม่ได้มีบ้านอาศัยอยู่ในย่านชุมชนนั้น
ทั้งนี้ หลังจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสที่มีฝนตกหนักและสายลม 225 กม. / ชม. เข้าโจมตีญี่ปุ่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและมีผู้เสียชีวิตถึง 66 ราย โดยหลังจากนั้น มีข่าวว่า ชายเร่ร่อนสองคนพยายามใช้ศูนย์พักพิงเพื่อหลบพายุในโตเกียว แต่พวกเขาถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าไปภายใน เพราะไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในชุมชนแห่งนั้น
กรณีดังกล่าวก่อให้เกิดการถกเถียงอย่างมากในญี่ปุ่น และไม่ใช่ทุกคนที่เห็นอกเห็นใจกับคนทั้งสอง เจ้าหน้าที่ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Asahi Shimbun กล่าวว่า ในเช้าวันเสาร์มีคนจรจัดอายุ 64 ปีถูกขอให้เขียนชื่อและที่อยู่ของเขา แต่เมื่อเขาบอกว่าเขาไม่มีที่อยู่เขาก็ถูกปฏิเสธออก
“ผมบอกพวกเขาว่าฉันมีที่อยู่ในฮอกไกโด แต่พวกเขายังปฏิเสธที่จะให้ผมเข้าไปหลบพายุ” ชายจรจัดกล่าว ชายคนนั้นกล่าวเพิ่มว่า เขาใช้เวลาทั้งคืนนอนอยู่ใต้ร่มชายคาของอาคาร ร่วมกับชายจรจัดอีกคนที่ถูกปฏิเสธให้เข้าไปด้านเช่นเดียวกันในบ่ายวันนั้น ซึ่งผู้คนจำนวนมากที่ทราบเรื่องกล่าวว่า เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม เนื่องจากชายสองคนนั้นอาจเสียชีวิตได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ดูแลศูนย์พักพิงให้เหตุผลว่า ที่ต้องปฏิเสธคนจรจัด เพราะมีคำสั่งว่า ผู้ที่เข้ามาหลบในศูนย์พักพิงต้องกรองชื่อกับที่อยู่ ซึ่งต้องอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงรอบๆเท่านั้น เขาจึงเข้าใจว่าศูนย์แห่งนี้เข้าได้เฉพาะคนในชุมชน และเกรงกว่า คนในศูนย์พักพิงอาจรู้สึกไม่ดี หากมีคนเร่ร่อนเข้ามาอยู่ปะปนกับคนในชุมชน
บทความนี้แปลและเขียนโดยทีมข่าว Bright Today