ยูเครน — ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้แถลงข่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศในวันนี้ (24 ก.พ. 2565) โดยได้ประกาศเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารในแคว้นดอนบาส ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ทางการยูเครนไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วัน โดยประธานาธิบดีปูตินให้เหตุผลในปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ว่าเพื่อเป็นการปกป้องชีวิตพลเรือน และตอบโต้ภัยคุกคามจากยูเครน พร้อมย้ำว่ารัสเซียไม่มีเป้าหมายยึดครองยูเครน ขณะเดียวกันประธานาธิบดีปูตินยังได้เรียกร้องให้ทหารยูเครนในพื้นที่สู้รบ ทางตะวันออกของประเทศยอมแพ้ วางอาวุธรบและกลับไปยังบ้านเรือนของตน พร้อมกับเตือนยูเครนว่า จะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกตราหน้าว่าเป็นต้นเหตุของการนองเลือด
ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวด้วยว่า การปะทะกันของกองทัพยูเครนและรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ทั้งนี้ หลังจากคำประกาศดังกล่าวของประธานาธิบดีปูตินมีขึ้นหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือวิกฤตที่เกิดขึ้นในยูเครน โดยนายแอนโทนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติได้เตือนว่าการเพิ่มปฏิบัติการทางทหารจะทำให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ทั้งชีวิตผู้คน ทรัพย์สินและความเสียหายตามมาอีกมากมาย พร้อมได้วิงวอนไปยังประธานาธิบดีปูตินให้ยุติการส่งทหารเข้าไปโจมตียูเครน โดยหลังคำแถลงของประธานาธิบดีปูตินก็มีรายงานข่าวว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นถึง 5-6 ครั้งในกรุงเคียฟ และมีรายงานว่ามีเสียงระเบิดแคว้นโดเนตสค์และแคว้นครามาทอสค์ของยูเครนด้วย
ไบเดน มั่นใจ! ปูตินตัดสินใจบุก ยูเครน แน่นอนในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯได้ออกมาประณามประธานาธิบดีปูตินว่า ปฏิบัติการโจมตีทางทหารในยูเครนเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม และเป็นการโจมตีทั้งที่ยูเครนไม่ได้กระทำการยั่วยุใดๆ พร้อมกับระบุว่าประธานาธิบดีปูตินได้เลือกที่จะก่อสงคราม ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอันใหญ่หลวงของชีวิตผู้คน และรัสเซียจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบจากเหตุโจมตีครั้งนี้
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯยังเปิดเผยว่าทำเนียบขาวจะจับตาดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนอย่างใกล้ชิด โดยสหรัฐฯและกลุ่มประเทศพันธมิตรจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตจะดำเนินการตอบโต้รัสเซีย หากหนึ่งในประเทศสมาชิกถูกโจมตี
ทั้งนี้ ชนวนเหตุที่ทำให้รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครนมีขึ้น เพื่อไม่ให้ยูเครนเข้าสมัครเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ซึ่งหากยูเครน ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียดเข้าร่วมกับนาโต้ก็จะได้รับการสนับสนุนด้านการทหารและอาวุธจากบรรดาชาติตะวันตก และจะถือเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียในอนาคต