เหตุจลาจล กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้สั่งการให้สารวัตรทหารเตรียมพร้อมภายใน 24 ชั่วโมง หากได้รับการโทรแจ้ง เพื่อเตรียมถูกส่งตัวไปดูแลสถานการณ์ เหตุจลาจล ที่เกิดติดต่อกัน 3 คืนตามเมืองต่างๆ ซึ่งเกิดจากการประท้วงเหตุตำรวจผิวขาวในเมืองมินนิแอโพลิส รัฐมินนิโซตาทำร้ายนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี วัย 46 ปี ที่ไม่มีอาวุธจนเสียชีวิต ขณะจับกุมนายฟลอยด์ ฐานใช้ธนบัตรปลอมซื้อของ โดยการเสียชีวิตของนายฟลอยด์ส่งผลให้เกิดเหตุประท้วง และลุกลามเป็นเหตุจลาจลในหลายที่ ทั้งเมืองมินนิแอโพลิส กรุงวอชิงตันดี.ซี. นิวยอร์ก แอตแลนตา และนครลอสแอนเจลิส
ส่วนที่ทำเนียบเขาก็ได้ล็อคดาวน์เป็นการชั่วคราว โดยมีเพียงตำรวจอารักขาประจำการ บริเวณทางเข้า-ออก หลังมีกลุ่มผู้ประท้วงปักหลักชุมนุมบริเวณด้านหน้า
คำสั่งดังกล่าวของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯมีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้กระทรวงกลาโหมดำเนินมาตรการยุติเหตุความไม่สงบ เหตุจลาจลและเหตุปล้นสะดมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ โดยผู้นำสหรัฐฯระบุว่าเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างมาก และตนได้พูดคุยกับครอบครัวของนายฟลอยด์เพื่อแสดงความเสียใจแล้ว
ขณะที่นายไบรอัน เคมป์ ผู้ว่ารัฐจอร์เจียได้สั่งประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงในเมืองแอตแลนตา ซึ่งเป็นเมืองเอกของรัฐ โดยหลังการประกาศดังกล่าว กองกำลังพิทักษ์ชาติก็ได้ลงพื้นที่เพื่อปกป้องประชาชน และทรัพย์สิน ส่วนกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองมินนิแอโพลิสได้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว และออกเดินขบวนมาประท้วงในช่วงคืนที่ผ่านมา
ล่าสุด นายดีเร็ก โชววิน อดีตตำรวจ วัย 44 ปี ที่ใช้เข่ากดคอนายฟลอยด์จนเสียชีวิตได้ถูกจับกุม และถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมนายฟลอยด์แล้ว ซึ่งเขามีกำหนดขึ้นศาลครั้งแรกในวันจันทร์นี้