จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาพุ่งทะลุ 800,000 ราย มีผู้เสียชีวิตกว่า 44,000 ราย
วันที่ 23 เม.ย. 63 ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระบบของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ยืนยันผลผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในสหรัฐฯ ยอดรวมทั้งหมด 823,786 ราย และมีผู้เสียชีวิตอีก 44,845 ราย
นอกจากนี้ รัฐนิวยอร์กยังคงได้รับผลกระทบหนักสุด โดยมีผู้ป่วย 257,125 รายเสียชีวิต 18,821 ราย รวมถึงรัฐนิวเจอร์ซีย์ ที่มียอดผู้ติดเชื้อถึง 88,806 รายและเสียชีวิต 4,520 ราย โดยรัฐอื่นๆ ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 30,000 ราย ได้แก่ แมสซาชูเซตส์ เพนซิลเวเนีย แคลิฟอร์เนีย มิชิแกน และอิลลินอยส์
หลังจากการแพร่ระบาดของโรคทำให้ภาวะเศรษฐกิจดิ่งตัวลง ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ เช่น เท็กซัส, จอร์เจีย, เซาธ์แคโรไลนา, เทนเนสซี, อิลลินอยส์, และหลุยเซียน่า ได้ประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะเริ่มต้นเปิดเศรษฐกิจใหม่และกลับมาดำเนินวิถีชีวิตตามปกติภายในรัฐของตน การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีการประท้วงต่อต้านการกักกันทั่วประเทศ ซึ่งผู้เข้าร่วมการประท้วงแย้งว่าคำสั่งให้กักตัวอยู่ที่บ้านซึ่งมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัสนั้นไม่มีความจำเป็น หรือดำเนินต่อเนื่องนานเกินไป
ผู้ว่าการรัฐบางคนตำหนิว่ารัฐบาลกลางไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่เพื่อช่วยให้รัฐต่างๆ สามารถเข้าถึงเวชภัณฑ์ได้ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่ารัฐต่างๆ ควรดำเนินการทดสอบโรค ไม่ใช่รัฐบาลกลาง
ภาพ : China Xinhua News