จากกรณีที่ กองทัพเมียนมาได้เข้ารัฐประหาร โดยได้เข้ายึดอำนาจ และจับกุมนาง อองซานซูจี มนตรีแห่งรัฐและหัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี, ประธานาธิบดี วิน เมี่ยน รวมทั้งแกนนำคนสำคัญในรัฐบาล พร้อมกับประกาศยึดอำนาจ และภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี เมื่อช่วงเช้าวันนี้( 1 ก.พ.64)
รัฐประหารเมียนมา ทหารเริ่มเข้ายึดอำนาจ ตัดการสื่อสาร-จับอองซาน ซูจี
ล่าสุด บรรดานานาประเทศต่างออกมาแสดงท่าที รวมทั้งแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ล่าสุดในเมียนมา
กองทัพเมียนมา ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี อ้างต้องรัฐประหาร เพราะมีการโกงเลือกตั้ง
ด้านนายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯได้เรียกร้องให้กองทัพเมียนมาปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี และเจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกคน พร้อมประกาศว่าสหรัฐฯพร้อมเคียงข้างชาวเมียนมา ผู้ใฝ่หาประชาธิปไตย เสรีภาพ สันติภาพ และการพัฒนาประเทศ และขอให้กองทัพเมียนมาเคารพหลักนิติธรรม และเสียงของประชาชนที่ได้แสดงออกผ่านทางการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา
เมียนมาหวั่นเกิด รัฐประหาร หลังผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขู่ฉีกรัฐธรรมนูญ
ด้านกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย ได้แสดงความเป็นห่วงเหตุรัฐประหารในเมียนมา โดยเรียกร้องให้เมียนมาแก้ไขความขัดแย้งในประเทศด้วยหลักการกฎหมาย และให้ปล่อยตัวผู้นำทางการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ถูกกักตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ได้ออกแถลงการณ์ แสดงความเป็นห่วงวิกฤตทางการเมืองในเมียนมา หลังเกิดรัฐประหาร โดยระบุว่าสิงคโปร์กำลังติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด และหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะใช้ความอดกลั้นอดทน และการเจรจาในการแก้ปัญหาเพื่อนำไปสู่ทางออกที่สันติ พร้อมกับหวังว่าสถานการณ์ในเมียนมาจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
ด้านนายแอนโทนิโต กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติได้ประณามเหตุรัฐประหารในเมียนมา และได้แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ที่อำนาจการบริหาร นิติบัญญัติ และตุลากรไปอยู่ในมือของกองทัพ ซึ่งเป็นที่เกิดขึ้นเหล่านี้ถือเป็นการกล้าถอยหลังในการปฏิรูปประชาธิปไตยในเมียนมา