อู่ฮั่น สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) เผยแพร่บทความชื่อ “Thailand’s Economy Was Already Sickening” หรือ เศรษฐกิจของไทยกำลังล้มป่วย ซึ่งเนื้อหาหลักของบทความระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสามารถทำให้ประเทศไทย ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่ “ภาวะถดถอย”
บทความแสดงความเห็นว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์โรคระบาด เศรษฐกิจไทยก็มีอาการป่วยอยู่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ภัยแล้งครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี
และเงินบาทที่แข็งค่าพร้อมๆ กัน ด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานก็ล่าช้า เพราะร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ยังไม่แล้วเสร็จ จึงก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการหั่นดอกเบี้ยนโนบายเหลือ 1 % ในสัปดาห์หน้า
ประเทศไทยเริ่มล้าหลังเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในบางครั้ง ขณะที่ความวุ่นวายทางการเมืองได้กลายเป็นตัวฉุดหลัก แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ สังคมผู้สูงอายุ การผลิตที่อ่อนแอ การบริโภคที่ไม่เติบโต และหนี้ครัวเรือนจำนวนมาก
ในปี 2563 ประเทศไทยยังเริ่มต้นปีด้วยความอ่อนแอ จากสถานกาณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทยที่ยืนยันแล้วจำนวน 19 ราย มากที่สุดนอกประเทศจีน และรัฐบาลปักกิ่งยังใช้มาตรการห้ามคนจีนเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ปัจจัยนี้มีผลโดยตรงต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งสร้างรายได้ 1 ใน 5 ของจีดีพี
โดยประเทศไทยรับนักท่องเที่ยวจีนมากถึง 11 ล้านคนในปีที่แล้ว และนักท่องเที่ยวจีนมียอดใช้จ่ายต่อคนมากกว่าชาติอื่นๆ สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศมากถึง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์
โดยนักวิเคราะห์มองว่า หากตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ซึ่งจะประกาศในเดือนนี้ เอนเอียงไปด้านลบ และ “ไตรมาสแรกของปี 2563 มีการหดตัวมากขึ้น ก็จะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะถดถอยในทางเทคนิค”