กองทัพบกฯ ชี้แจง! กรณีนายพลฯ นัดเจอผ่าน แอพฯหาคู่ ร่วมเพศสัมพันธ์ รุนแรง ซาดิสม์ – บังคับเสพยา
จากกรณีที่ผู้เสียหายมีการร้องสื่อ วันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่าถูกทหารระดับยศ นายพล ทำร้ายร่างกาย กล่าวคือ ผู้เสียหายนักเจอผู้ชาย ผ่านแอพฯหาคู่ แล้วร่วมมีเพศสัมพันธ์แบบรุนแรง มีเลือดออกทางทวารหนัก และบังคับในตนเสพยา ขณะมีเพศสัมพันธ์ทางเพจให้โลกโซเชียลอย่าง อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้ออกมาแชร์ข้อมูลข่าวในฝั่งของผู้เสียหาย โดยระบุข้อความ ดังนี้
ชายฉะกันระดับนายพล ใช้สารเสพติด เดี๋ยววันนี้ทาง ทบ. น่าจะมีการแถลงข่าวอะไรออกมาบ้าง อีกหนึ่งเรื่องน่าอับอายที่นายทหารยศนายพลสร้างความอับอายให้แก่กองทัพ ชื่อเล่น เสธ.ท. ระดับเจ้ากรม ชื้อบริการ ชายรักชาย ตุ๋ย!!! กระหน่ำจ่ายเพียง 2 พัน
โดยผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อ 22 เม.ย. 66 เวลา 21.00 น. ตนรู้จักกับผู้ชายคนนึง ผ่านแอพฯ หาคู่ในกลุ่มชายรักชาย และได้แชทพูดคุยทางไลน์ ก่อนจะนัดเจอกันที่ รร. แห่งหนึ่งใน อ.สะเดา จ.สงขลา โดยตนมาถึงเวลา 22.50 น. หลังตนเดินทางไปถึงห้องพักก็ได้มีการพูดคุยตามปกติ ซึ่งช่วงแรกๆ ก็มีนิสัยเหมือนคนปกติทั่วไปในกลุ่มชายรักชาย และก็ได้มีการอาบน้ำด้วยกัน และคุยกันจึงทราบว่า เป็นใคร ทำงานอะไร
หลังอาบน้ำเสร็จ เสธ.ท. ได้มีการชวนตนเล่นยาเสพติด (ยาไอซ์) โดยการละลายกับน้ำ แล้วฉีดยาไอซ์เข้าเส้นเลือด เพื่อทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวนานขึ้น และมีเพศสัมพันธ์กัน
ระหว่างปฏิบัติกิจ เสธ.ท. เริ่มนำอุปกรณ์เซ็กซ์ทอยมาใช้ และเริ่มมีการเฆี่ยนตี กัดกระชากไปทั่วร่างกาย เรียกว่า “BDSM” ซึ่งรุนแรงถึงมีเลือดไหลออกมาจากทวารอีกด้วย อยู่ในขั้นกามวิปริต (sexual perversion) ด้วยความกลัวจึงต้องอดทน
หลังเสร็จกิจ ตนพบว่าร่างกายของตนมีรอยเขียวช้ำ และมีอาการบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่างกาย ตนจึงได้มีการพูดคุยให้ เสธ.ท. รับผิดชอบเยียวยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ เสธ.ท. ใช้อำนาจขมขู่ และโยนเงินให้เพียง 2,000 บาท แล้วบอกว่า “พี่ให้แค่นี้แหละ จบๆไปซะ” และไล่ตนเองกลับ ช่วงเวลา 02.00 น.
รสนิยมชอบเพศเดียวกันไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ผิดกฎหมาย แต่การกระทำต่อผู้อื่นแบบนี้คือวิตถารและต่ำ !!
ล่าสุดทาง กองทัพบก ได้ออกมาทำหนังสือชี้แจง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจัดตั้งกรรมการสอบสวน เจ้าหน้าที่ท่านนี้ หาก กรณีดังกล่าวแม้เป็นเหตุการณ์ส่วนบุคคล แต่ในฐานะหน่วยงานที่ถูกอ้างถึง กองทัพบกได้เข้าดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นโดยทันที พบว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหาเป็นทหารจริง ในขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในระดับกองทัพบก และมีคำสั่งให้มาช่วยปฏิบัติราชการในส่วนกลางแล้ว
“หากปรากฏว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป ส่วนที่มีการกล่าวหา เรื่องการทำร้ายร่างกายและผู้เสียหาย จะดำเนินคดีทางอาญานั้น ก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนการสอบสวนทางคดี ที่ทั้ง ๒ ฝ่ายจะต้องนำพยานหลักฐาน ไปแก้ต่างตามกระบวนการยุติธรรม ขอเรียนว่ากรณีนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้อง กับการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ หรือนโยบายขององค์กร”
ยืนยันให้ทุกฝ่ายดำเนินการในทุกเรื่องภายใต้ข้อเท็จจริงและเป็นไปตามกฎหมายเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
