น้องจีน่ามีอาการหวาดกลัว อยู่ตลอด คาดมีการเคลื่อนย้ายเด็กไปหลายที่
นายเอกลักษณ์ หลุ่มชุมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตถึงกระท่อมที่พบตัวน้องจีน่าว่าเป็นพื้นที่ในป่าเขาซึ่งจะต้องเป็นคนในพื้นที่เท่านั้นถึงจะรู้เส้นทางที่จะนำไปสู่กระท่อมดังกล่าว อีกทั้งลักษณะของกระท่อม เป็นเเบบเพิงพักชั่วคราว ไม่ใช่สำหรับใช้อยู่อาศัย และคาดว่ามีการเคลื่อนย้ายพาตัวน้องจีน่าไปหลายที่ และเพิ่งจะมีการนำน้องจีน่ามาไว้ในกระท่อมดังกล่าว เนื่องจาก ไม่พบร่องรอยอุจจาระ หรือปัสสาวะของเด็กเลย ก่อนจะมีผู้มาพบเจอ
สำหรับเงื่อนงำสาเหตุการลักตัวนายเอกลักษณ์ให้ความเห็นว่า หากจะเรียกค่าไถ่ ก็ต้องไปดูศักยภาพทางครอบครัวน้องจีน่า ว่ามีทรัพย์สินมากพอต่อการเรียกค่าไถ่หรือไม่ เพราะโดยปกติเเล้ว หากเป็นการเรียกค่าไถ่ จะต้องมีการส่งข้อเรียกร้องมายังครอบครัวตั้งเเต่วันเเรกที่ถูกลักพาตัวไป หรือแม้แต่การค้ามนุษย์ ที่จะนำเด็กไปขอทานที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยในกรณีของน้องจีน่านั้นผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ ต่างออกไป จึงจะต้องดูข้อมูลด้านอื่นๆด้วยว่ามีเหตุจูงใจอะไรในการก่อเหตุ หรือมีความขัดแย้งอะไรในครอบครัว

ล่าสุดตอนนี้น้องมีอาการอ่อนเพลียและขาดน้ำพร้อมกับมีไข้อ่อนอ่อนซึ่งทางทีมแพทย์นั้นจะต้องติดตามอาการระยะหนึ่งก่อนแต่ตอนนี้สาเหตุที่ทั้งหมดยังต้องอยู่ภายในห้องความดันลบนั้นเนื่องจากว่าทางทีมแพทย์จะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในรูปแบบของ RT-PCR เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวน้องจีน่าและพ่อแม่รวมไปถึงผู้ป่วยท่านอื่นๆและบุคลากรของโรงพยาบาลด้วยซึ่งหลังจากผลการตรวจหาเชื้อ โควิด-19 ออกแล้วจึงจะสามารถนำตัวน้องไปที่ห้องพักของผู้ป่วยได้
โดยขั้นตอนหลังจากนี้ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางกุมารเวช จะต้องเข้ามาตรวจดูอาการรวมไปถึงตรวจร่องรอยต่างๆตามร่างกายของน้องและสิ่งที่สำคัญคือต้องมีการตรวจสอบว่าคนร้ายได้ ทำร้ายร่างกายน้องรวมไปถึงมีการล่วงละเมิดน้องด้วยหรือไม่
ท้านด้านพ่อของน้องจีน่ายอมรับว่า ค่อนข้างมีความกังวลและเป็นห่วงลูกเพราะลูกนั้นอยู่ในอาการหวัดกลัวและมีท่าทีที่ค่อนข้างหวาดระแวง ทั้งทั้งที่ตอนที่ตัวเองอยู่โรงพยาบาลมีการเข้าไปโอบกอดและพูดคุยกับน้องจีน่าแล้วแต่น้องก็ยังร้องไห้และมีการหวาดกลัวไม่หยุด ทำให้ตัวเองค่อนข้างกังวลว่าน้องนั้นจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปในอนาคตหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก เจี๊ยบ พรทิพย์ / มูลนิธิกระจกเงา