จิรัฎฐ์ ก้าวไกล ยัน! เอกสารถูกต้อง ไม่ได้หนีทหาร รับ ไปช้าเพราะติดธุระ ทำตามกระบวนการทุกอย่าง – ถามกลับ! เขาเพื่ออะไร และใครได้ประโยชน์
วันนี้ (26 ม.ค.67) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ชี้แจง กรณีเพจ วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร ได้มีการเดินทางร้อง กับทางสภาผู้แทนราษฎร ให้มีการตรวจสอบ กรณีนายจิรัฏฐ์ ไม่ได้เข้าเกณฑ์ทหาร หรือ หนีทหาร
โดยทาง นายจิรัฏฐ์ กล่าวกับเรื่องนี้ว่า ตนเองต้องนำใบจริงไปยื่นอยู่แล้ว ส่วนการตรวจสอบว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ เป็นหน้าที่ของราชการ เป็นเอกสารตั้งแต่ 14 ปีที่แล้ว ตอนนั้น เราเป็นเด็กเพิ่งเรียนจบ แล้วไม่ได้ไปรายงานตัว แต่ที่ออกมาพูดช้า เพราะหาเอกสารไม่เจอ สุดท้ายไปรื้อเจอที่บ้านคุณแม่ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าใบ ส.ด.43 ที่นำมาแสดงนั้น ไม่มีรอยนิ้วมือ ผมเองก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีรอยนิ้วมือ เขาไม่ได้ให้ปั๊ม ตนเองจำได้ว่าวันนั้นติดเรียน หรือติดธุระอะไรสักอย่าง เหมือนจะเป็นการสอบธีสิส จึงไปวันรุ่งขึ้น เราก็ทำตามหมด ให้จ่ายค่าปรับก็จ่าย ให้จับใบดำใบแดงเราก็จับ ให้เอกสารอะไรมาก็ทำตามกระบวนการที่เขาให้ทำทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่มีการปลอมเอกสารแน่นอน
แต่ที่เช็กกับหลายคนก็ไม่มี เราเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เข้าไปในหน่วยงานราชการทำตามกระบวนการอยู่แล้ว จะมีอำนาจอะไรไปสั่งการ
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าโดยปกติแล้วหากศาลมีคำสั่งว่าหนีทหาร จะต้องไปเกณฑ์ทหารทันที ไม่ใช่ไปจับใบดำใบแดงนั้น เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม กระบวนการของศาล ซึ่งตนเองก็ต้องทำตามที่เขาให้ทำ
ในส่วนเรื่องการเปลี่ยนชื่อ ผมมีการเปลี่ยนตั้งแต่ปี 1 ตอนนั้นก็เปลี่ยนกันทั้งบ้าน ซึ่งเรียนทหารก็เป็นหลังจากเรียนจบ ส่วนในเอกสารราชการจะเปลี่ยนชื่อหรือยังนั้น ตนเองไม่ทราบ
เมื่อถามว่ารู้สึกแปลกหรือไม่
นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า รู้สึกโชคดี ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ตนเองคงไม่ต้องไปเกณฑ์ทหารแล้ว เกณฑ์ทหารไม่ได้อะไรอยู่แล้ว ชีวิตหายไป 2 ปี แทบจะเอาชีวิตไปทิ้ง ถ้าออกมาเป็นแบบนั้น ตนเองก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดี ตนเองไม่รู้ว่ากระบวนการเป็นอย่างไร แล้วแต่หน่วยงานราชการ เขาบอกให้ทำก็ทำ
นายจิรัฏฐ์ พอทราบเรื่องที่เพจร้องต่อคณะกรรมาธิการการทหารด้วย เมื่อถึงเวลาลงมติ ตนเองคงไม่ออกความเห็น ให้คณะกรรมาธิการคนอื่นพิจารณา ว่าจะนำเรื่องนี้เข้ามาพูดคุยหรือไม่ เพราะคณะกรรมาธิการมีหน้าที่ศึกษาพิจารณา แก้ไข สืบสวน ข้อพิพาท ส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อพิพาทระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการทหาร
ประชาชนที่มาร้องเรียนจะต้องเป็นผู้เสียหาย ที่มาเรียกร้องความยุติธรรม ความเป็นธรรม แต่เรื่องนี้ตนเองยังไม่ทราบ ว่าใครเป็นผู้เสียหาย และเขาได้รับความเดือดร้อนอะไร จากสิ่งที่มันเกิดขึ้น ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ทีนี้ก็ต้องตั้งคำถามกันว่า ผมไม่ได้แปลกใจ การถูกทำลาย ความพยายามในการทำลาย ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดออกมาเป็นเรื่องจริง แต่ว่าสิ่งที่ผมพูด สิ่งที่ทำเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ถ้าทำแล้วมันสำเร็จ แต่เรื่องที่เขาทำเขาทำเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์
“ผมไม่อยากให้สังคมเปลี่ยนประเด็น จากความผิดปกติในหน่วยงานทหารมาเป็นเรื่องนี้แทน เพราะเป็นความพยายามบิดเบือนกระแสสังคมมากกว่า” นายจิรัฏฐ์ กล่าว