“ดับซ่า กำแพงแสน” ทลายผับเถื่อนหน้า ม.ดัง ปล่อยเด็กเที่ยว-ฉี่ม่วงอื้อ

วันที่ 31 พ.ค.2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการรักษาดินแดน กว่า 30 นาย เข้าทำการจับกุมสถานประกอบบริการ ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม หน้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง

ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองของนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอกำแพงแสน ว่าร้านดังกล่าวมีการปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปเที่ยว แถมให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในร้าน และอวดอ้างว่ามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้การสนับสนุน จึงได้ประสานกรมการปกครองทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงได้ส่งสายลับฝ่ายปกครองเข้าทำการสืบสวน ปรากฏข้อมูลว่าทางร้านไม่มีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของนักเที่ยว เพื่อคัดกรองอายุก่อนให้เข้าใช้บริการแต่อย่างใด มีการยินยอมปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้ามามั่วสุมใช้บริการภายในร้านเป็นปกติ ปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติดภายในร้าน และพบว่านักเที่ยวพกพาอาวุธปืนบรรจุกระสุนพร้อมใช้งาน จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม

จากการปฏิบัติพบนักเที่ยวกว่า 120 คน กำลังดื่มด่ำบรรยากาศความสนุกสนาน เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว นักเที่ยวต่างแตกตื่น พยายามวิ่งฝ่ากำลังเจ้าหน้าที่เพื่อหลบหนี

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบผลการตรวจค้นพบว่าสถานบริการดังกล่าวเป็นสถานบริการเถื่อน ไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปเที่ยว แถมตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วงอายุเพียง 17 ปี ยังพบอาวุธปืนบรรจุกระสุนพร้อมใช้งาน ที่นักเที่ยวพกพาเข้ามา ยาเสพติดเกลื่อน ตรวจปัสสาวะนักเที่ยวพบเป็นสีม่วงจำนวนมาก

พนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุม ได้แจ้งข้อหากล่าวหากับผู้ประกอบการ คือ เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 เข้าไปใช้บริการในสถานบริการ , มีการจำหน่ายสุราให้แก่เด็ก และจำหน่ายสุราให้แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี, ไม่ตรวจเอกสารราชการที่มีภาพถ่ายและระบุอายุของผู้ซึ่งเข้าไปในสถานบริการ, จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ,โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อมและยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร

ทั้งนี้ในส่วนของอาวุธปืนได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ครอบครอง 3 ข้อหาหนัก 1)มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2)มีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 3)พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ หรือพาไปในชุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อมนัสการ การรื่นเริง การมหรสพ โดยไม่ได้รับอนุญาต

อีกทั้งการกระทำของสถานบริการดังกล่าว ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมสั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี