‘ทนายตั้ม’ เตรียมยื่นหนังสือ เลขาธิการ ปปง.อายัดทรัพย์ คุณผู้หญิงVVIP

วันนี้ (30เม.ย67) เวลา 11.00 น.ที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงเลขาธิการปปง. กรณี คุณผู้หญิงท่านหนึ่ง ที่อยู่ระดับ VVVIP และเกี่ยวข้องกับเงินเว็บพนัน กำลังทำเรื่องขอสัญชาติที่อังกฤษ โดยมี นายสุทธิศักดิ์ สุมน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย และในฐานะรองโฆษกประจำสำนักงานปปง.เป็นผู้รับหนังสือ

ด้านนายนายสุทธิศักดิ์ ระบุว่า ทางสำนักงาน ปปง. จะรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้รับมา เพื่อตรวจสอบให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย โดยจะรีบนำพยานหลักฐานทั้งหมดนี้ไปตรวจสอบ ซึ่งกระบวนการการตรวจสอบจะเหมือนคดีทั่วๆไป ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบ หากพบว่ามีผู้กระทำความผิดและทรัพย์สินได้จากการกระทำความผิดจะดำเนินการยึดทรัพย์สินทั้งหมด

ขณะที่ทนายตั้ม ระบุถึงรายละเอียดของหลักฐานที่นำมายื่นต่อสำนักงาน ปปง. วันนี้ ว่า เรื่องนี้ที่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีร่วมกันฟอกเงินโดยมีทั้งหมด 4 คน โดยมีภรรยาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีเส้นเงินถึง 100,000 บาทเข้ามาในบัญชีประจำทุกเดือน

โดยบัญชีม้ามีข้อมูลว่าดาบยาวและรองฟาง เป็นผู้ถือบัญชี แบะมีอำนาจสั่งการควบคุมบัญชี ซึ่งเงินเดือนของดาบหรือรองผู้กำกับไม่มากมากมายขนาดนี้ที่จะโอนให้บัญชี “มาดามกุ๊กไก่ (ภรรยาผบ.ตร.)

ซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาเส้นเงินชัดเจน ทั้งวันและเวลาโอนเงิน ที่ระบุไปให้กับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน แต่ยังไม่มีการเรียกมาดามกุ๊กไก่มาแจ้งข้อกล่าวหา และเรียกมาสอบปากคำ / และตัวเองทราบว่าขณะนี้มาดามคนนี้ได้ไปปรึกษาผู้ใหญ่ขอทำสัญชาติที่ประเทศอังกฤษ ตนเองมองว่าเป็นทางเลือกว่าหากผิดพลาดในเรื่องของคดี จะได้มีที่อยู่อยู่ต่อไปในอนาคต ซึ่งตัวเองก็ยังทราบมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและมาดามมีบ้านอยู่ที่ประเทศอังกฤษถึง 2 หลัง มูลค่าหลังละประมาณ 10- 40 ล้านบาท / วันนี้ตังเองจึงเดินทางมาที่ ป.ป.ช. เพราะกลัวว่าจะมีการถ่ายโอนทรัพย์สิน / ซึ่งวันนี้ได้ขอให้ตรวจสอบดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินหลายคน ประกอบด้วย “มาดามกุ๊กไก่” ภรรยาของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์

คนที่ 2 เป็นตัวละครใหม่ คือ สารวัตรสาวหล่อ ที่เป็นคนใกล้ชิดกับมาดามกุ๊กไก่ สังกัด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรปราการ มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดมาดาม ทำธุรกิจร่วมกันทั้งโรงแรมที่เขาใหญ่ / ตลาดกลางคืน / ถือโฉนดที่ดินร่วมกัน ประมาณ 5 ไร่ และมีหลักฐานว่าทั้งคู่ เป็นประธานทำบุญร่วมกันโดยมีการบริจาคเงินจำนวนตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านบาท

คนที่ 3 คือ “ดาบยาวและรองฟาง” และครอบครัว รวมถึงบัญชีม้าต่างๆ ที่มีเส้นเงินที่ชัดเจนกว่า 50 บัญชี

นอกจากนี้หลักฐานที่นำมายื่นให้ตรวจสอบวันนี้ สืบเนื่องจากเส้นเงินจากเว็บพนัน BNK MASTER และเงินจากส่วย 18 ธุรกิจ ที่มีมีการโอนเข้าบัญชีของนายณัฐพงษ์ บัญชีมเา (สงวนนามสกุล) ประมาณ 800 ล้านบาท และมีการโอนให้ผู้ได้รับประโยชน์ คือ ภรรยาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (มาดามกุ๊กไก่) ที่มีเงินเข้าบัญชีรวมแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ทั้งที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ซึ่งหากไม่ใช่เป็นเงินที่มีความผิดฐานการฟอกเงิน ต้องหาหลักฐานมายืนยัน

ทนายตั้มยังระบุถึงหลักฐานการทำธุรกรรมทางการเงินของภรรยาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งเงินทำธุรกิจ 192 ล้านบาท / บริจาคให้กับนิติบุคคล ซึ่งมีความซับซ้อน และมีความเกี่ยวข้องกับ หนึ่งในคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวนเงินประมาณ 45 ล้านบาท รวมถึงนำเงินไปซื้อที่ดินจำนวน 77 ล้านบาท และซึ่งต้องฝากให้ ป.ป.ง. ตรวจสอบ

ในส่วนของดาบยาว ภรรยาและครอบครัว มีหลักฐานเรื่องการนำเงินไปทำรีสอร์ท ชื่อ “พาขวัญ” รวมถึงมีบ้านในจังหวัดลพบุรี ที่มีพื้นที่จอดรถได้กว่า 10 คัน และนำเงินไปซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตในราคาสูง ซึ่งเป็นชื่อของภรรยาดาบยาว

ในส่วนของสารวัตรสาวหล่อคนสนิทมาดาม ก่อนหน้านี้เคยมีข้อมูลจากเพจพระจันทร์ลายกระต่ายเคยโพสต์จากมีผู้ร้องเรียนว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการร้องเรียนว่ามีตำรวจตำรวจระดับสารวัตรมีอำนาจเหนือผู้กำกับสถานีซึ่งเคยอ้างตัวว่ามีผู้ใหญ่เป็นภรรยาระดับบิ๊กตำรวจหนุนหลัง แบะ 1 เดือน เข้ามาทำงานเพียง 2-3 วันเท่านั้น เพื่อเข้ามาเก็บส่วนที่รู้กันดีว่า ตำรวจระดับผู้กำกับได้ส่วนแบ่งเพียงร้อยละ 10 ส่วนอีก ร้อยละ 90 ส่งขึ้นไปถึงนายตำรวจระดับสูง

ทนายตั้ม ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ที่มีมติออกมาถึงเรื่อง การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ซึ่งในขณะนั้นมียศพลตำรวจตรียื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ ไม่ได้ระบุถึง ทรัพย์สินที่เป็นบ้านหรู 2 หลังในประเทศอังกฤษ โดยตนเองจะติดตามว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหากับพลตำรวจเอกต่อศักดิ์หรือไม่ ทั้งที่มีมติออกมาแล้วซึ่งเรื่องนี้จะเป็นมาตรฐาน ในเรื่องการตรวจสอบการทุจริตต่อไป