วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (31 ตุลาคม 2566) มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย (อิสราเอล) และอนุมัติวงเงินงบฯ วงเงินรวม 1,200 ล้านบาท จากงบฯ ร่ายจ่ายประจำปี เพื่อดำเนินโครงการฯ พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แรงงานไทยที่เดินทางกลับไทยมีสภาพคล่องที่เพียงพอในการเริ่มต้นประกอบอาชีพ หรือแบ่งเบาภาระหนี้สิน
โครงการสินเชื่อคืนถิ่นแรงงานไทย (อิสราเอล)
มีวัตถุประสงค์ เพื่อชำระหนี้กู้ยืมสำหรับการไปทำงานที่อิสราเอลและ/หรือเพื่อลงทุนประกอบอาชีพ (ข้อมูลจาก กรมการจัดหางาน ณ เดือน ก.ย. 2566 มีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล 25,887 คน)
เป็นผู้ที่ไปทำงานที่อิสราเอล อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ และเมื่อรวมอายุผู้กู้ กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ แล้วต้องไม่เกิน 60 ปี (ประมาณ 12,000 ราย)
ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท / สินเชื่อต่อรายไม่เกิน 150,000 บาท ลูกค้ารับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี / ระยะเวลาชำระเงินคืนงวดสูงสุดไม่เกิน 20 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 งวดแรก
ระยะเวลาการยื่นขอสินเชื่อ ตั้งแต่วันที่ ครม. มีมติ (31 ตุลาคม 2566 – 30 ตุลาคม 2567) หรือจนกว่าจะครบวงเงินโครงการฯ ซึ่งจะมีการอนุมัติงบประมาณ รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,200 ล้านบาท
งบประมาณ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็น
1) ชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ร้อยละ 100 สำหรับ NPLs ไม่เกินร้อยละ 20 ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 400 ลบ. (2,000 ลบ. X ร้อยละ 20 x ร้อยละ 100) โดยแบ่งเป็น ธ.ออมสิน 200 ลบ. และ ธ.ก.ส. 200 ลบ.
(2) ชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ของวงเงินสินเชื่ออนุมัติเป็นระยะเวลา 20 ปี รวมทั้งสิ้น 800 ลบ. (2,000 ลบ. X ร้อยละ 2 x 20 ปี) โดยแบ่งเป็น ธ.ออมสิน 400 ลบ. และ ธ.ก.ส. 400 ลบ.
ทั้งนี้ ธ.ออมสิน และ ธ.ก.ส. จะทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการจัดสรรงบฯ ตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป
ทางด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มอบหมายภารกิจเร่งด่วนให้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กต. เดินทางเยือนรัฐกาตาร์และสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. – 2 พ.ย. 66 เพื่อพบกับผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศ และ หารือเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน จากสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล และแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์และพัฒนาการในภูมิภาค หารือถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่อยู่ในความสนใจร่วมกัน
ทั้งนี้ ความตั้งใจของไทยคือ ต้องการให้ปล่อยตัวประกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบว่าตัวประกันทั้งหมดอยู่ที่บริเวณไหน อยู่ในประเทศใด รัฐบาลจึงต้องเร่งติดต่อปล่อยตัวประกันให้เร็วและปลอดภัยที่สุด
ที่มา : ข่าวคณะโฆษก
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY