รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำพร้อมตรวจเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ อธิบดีกรมชลประทาน สรุปสถานการณ์น้ำและรายงานแผนฟื้นฟู
วันนี้ (22 ก.ย.) ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในแม่น้ำมูลที่สถานีวัดน้ำM.7 มีระดับสูงกว่าตลิ่งที่อำเภอวารินชำราบประมาณ 2.84 เมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,905 ลบ.ม./วินาที ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูลประมาณ 3 เมตร การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงจึงสามารถระบายได้ดีเฉลี่ยวันละ 500 ล้าน ลบ.ม. ฉะนั้นระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M.7 จึงลดลงเฉลี่ยวันละประมาณ 20 เซนติเมตร
ทั้งนี้อิทธิพลของพายุโพดุล เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณลุ่มน้ำชี-มูลประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำมูล
ศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยแม่น้ำชี-มูล (ส่วนหน้า)จังหวัดอุบลราชธานี กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการบริเวณต้นน้ำ ด้วยการหน่วงน้ำไว้ที่อาคารบังคับน้ำต่างๆ ส่วนพื้นที่ปลายน้ำ ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำตลอดลำน้ำมูลจนถึงอำเภอโขงเจียม (เร่งผลักดันน้ำจากลำน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง)รวม300เครื่อง แบ่งเป็นอำเภอพิบูลมังสาหาร 100 เครื่อง และที่อำเภอโขงเจียมอีก200 เครื่อง
ซึ่งหลังจากนี้หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ วางมาตรการช่วยเหลือไว้ 8 กิจกรรม เช่น การให้คำแนะนำด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ การเข้าซ่อมแซมเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่เสียหาย และในวันที่ 23 ก.ย. จะมีกิจกรรม “จิตอาสากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัย” ซึ่งจะมีจิตอาสา เข้าทำความสะอาดบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย