วันที่ 24 มกราคม 2563 พลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ทางทะเลภาค 2 และเจ้าหน้าที่ศุลกากรภาค 4 สรรพสามิตภาคที่4 กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมประมง แถลงข่าว ผลการจับกุมเรือประมงดัดแปลงค้าน้ำมันในทะเลอ่าวไทย โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร โดยทำการยึดเรือ โชคชัย และเรือ ช.โชคชัย ได้ 2 ลำ และน้ำมันดีเซลจำนวน 13,000 ลิตร พร้อมด้วยลูกเรือคนไทยอีก 8 คน
พล.ร.ท. สำเริง เผยว่า ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่าพบเรือต้องสงสัยว่าจะทำการขายน้ำมันเถื่อน จึงสั่งการให้ เรือ ต.271 เข้าตรวจสอบบริเวณแลต 7 องศา 36 ลิปดาเหนือ ลอง 100 องศา 29 ลิปดาตะวันออก หรือบริเวณแบริ่ง 343 ห่างจากปากร่องน้ำสงขลาประมาณ 30 ไมล์ทะเล พบเรือ ช.โชคชัย และเรือโชคชัย จอดทอดสมออยู่จึงเข้าทำการตรวจสอบ ไม่พบเอกสารควบคุมเรือและเรือถูกดัดแปลงจากเรือประมงเป็นเรือบรรทุกน้ำมันเพื่อใช้ในการค้าน้ำมันเถื่อนกลางทะเล โดยลูกเรือยังไม่เปิดเผยว่าเป็นของใครและใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการสอบสวนเพื่อสาวไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังต่อไป
ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหา 1.ไม่สามารถนำใบทะเบียนแสดงได้ทันทีเมื่อเจ้าพนักงานทำการตรวจ/และไม่มีเอกสารประจำเรือตามที่กฎหมายกำหนด (พ.ร.บ.เรือไทย พ.ศ. 2481) 2.ร่วมกันนำของที่ยังไม่ผ่านพิธีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร (พ.ร.บ.ศูลกากร) 3.ขายหรือมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน (พ.ร.บ. สรรพสารมิตร) และ 4 .ใช้เรือโดยไม่มีใบทะเบียน (พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย) พร้อมกับนำลูกเรือดำเนินคดีต่อไป