คณะกรรมการมรดกโลก มีมติให้ ป่าแก่งกระจาน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของไทย
26 ก.ค. 64 มีรายงานข่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ซึ่งมีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ ได้มีมติขึ้นทะเบียน ป่าแก่งกระจาน เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

โดยการประชุมผ่านระบบทางไกล มีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ สำหรับวาระการพิจารณาในวันที่ 26 ก.ค.2564 ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกหยิบยกวาระแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมขึ้นมาพิจารณาต่อ ได้แก่ debate ของ Spain, Paseo del Prado ans Buen Retiro จากนั้น จะเป็นวาระแหล่งทางธรรมชาติ กลุ่มป่าแก่งกระจานของไทย จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 3
ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลก มีมติขึ้นทะเบียน กลุ่มป่าแก่งกระจาน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก

สำหรับ แก่งกระจาน เป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีคุณค่าโดดเด่นระดับโลก รวมไปถึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่ มากกว่า 200 กิโลเมตร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง