กรมชลประทานเดินหน้า“โครงการบางระกำโมเดล” ต่อเนื่องเป็นปีที่4 วางแผนจัดสรรน้ำ310 ล้านลบ.ม. จากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนให้เกษตรกรทำนาปีก่อน265,000 ไร่ก่อนจะใช้พื้นที่กักเก็บน้ำหลากในช่วงฤดูฝนได้ถึง400 ล้านลบ.ม. หวังเป็นน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภคบริโภคและการเกษตรในช่วงฤดูแล้งหน้า

ดร.ทองเปลว กองจันทร์อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่าในฤดูแล้งในปี2563 นี้กรมชลประทานได้ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำแบบประชาชนมีส่วนร่วมพื้นที่ทุ่งหน่วงน้ำ-บางระกำหรือ“โครงการบางระกำโมเดล” ต่อเนื่องเป็นปีที่4 แต่จะลดพื้นที่ดำเนินการลงจาก382,000 ไร่ในปีที่แล้วเหลือ265,000 ไร่เท่ากับปี2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำเนินโครงการบางระกำโมเดลทั้งนี้เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนปีนี้มีจำนวนจำกัดจำเป็นต้องจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับกิจกรรมการใช้น้ำที่ได้วางแผนไว้โดยจะจัดสรรน้ำให้ประมาณ310 ล้านลบ.ม. เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่โครงการใช้น้ำทำนาปีตั้งแต่วันที่1 เมษายน- 31 กรกฎาคม2563
ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโครงการบางระกำโมเดลเป็นโครงการปรับเปลี่ยนปฏิทินใหม่ในการทำนาปีของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัยบางส่วนให้เร็วขึ้นกว่าปกติเพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ก่อนถึงฤดูน้ำหลากช่วยลดความเสี่ยงที่ผลผลิตข้าวจะเกิดความเสียหายจากน้ำท่วมซึ่งนอกจากจะทำให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้วหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตยังสามารถใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแก้มลิงธรรมชาติรองรับน้ำในฤดูน้ำหลากช่วยลดผลกระทบจากอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในเขตชุมชนและสถานที่ราชการของจังหวัดสุโขทัยตลอดจนเป็นการหน่วงน้ำรอการระบายไม่ให้เกิดผลกระทบกับลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างอีกด้วย
นอกจากนี้โครงการบางระกำโมเดลยังจะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจาการทำอาชีพประมงซึ่งเป็นวิถีชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำและการปล่อยน้ำให้ท่วมนาในช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมมีอาหารปลา ทีี่สมบูรณ์เพราะเมล็ดข้าวที่ร่วงหล่นหรือเกิดขึ้นมาใหม่จะเป็นอาหารของปลาอย่างดีปลาจะชุกชุมมากเป็นพิเศษ สร้างรายได้เสริมจากอาชีพประมงให้กับเกษตรกรรวมทั้งน้ำที่เก็บกักไว้ยังสามารถนำมาบริหารจัดการใช้เป็นน้ำต้นทุน ในการทำนาปรังและการอุปโภคบริโภคทั้งในเขตโครงการและลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างได้อีกประมาณ400 ล้านลบ.ม. ถือได้ว่าเป็นการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
“โครงการบางระกำโมเดลเกิดขึ้นเนื่องจากพื้นที่ลุ่มน้ำยมเป็นเพียงลุ่มน้ำเดียวของลุ่มน้ำสาขาลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ยังไม่มีเขื่อนขนาดใหญ่ในการเก็บกักน้ำทำให้ในช่วงฤดูน้ำหลากจะเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำยมในเขตจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัยเป็นประจำทั้งยังส่งผลต่อเนื่องไปถึงพื้นที่ลุ่มต่ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบตามไปด้วย ดังนั้นระหว่างที่รอโครงการชลประทานขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตรัฐบาลจึงได้จัดทำโครงการบางระกำโมเดลขึ้นตั้งแต่ปี2560 เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น” อธิบดีกรมชลประทานกล่าวในตอนท้าย