ทีมชาติไทย อากิระ นิชิโนะ คุมทัพ ทีมชาติไทย (ชุดใหญ่) อุ่นเจ๊า คองโก 1-1 ในสภาพทีมที่ไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่ด้วยเป้าหมายที่อยากทดสอบภาพรวมของทีม ก็ถือว่าเกมนี้ นิชิโนะ ได้ทดลอง ทดสอบระบบการเล่น แบบเต็มเม็ด เต็มหน่วย กับผู้เล่นหน้าใหม่ และอีกหลายราย ที่ได้ลงสัมผัสเกม ก่อนที่จะมีคิวนัดสำคัญลงสนาม พบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในศึกฟุตบอลโลก 2022 โซเอเชีย รอบสอง นัดที่สาม
ขณะที่ในแง่ของผมทั้งในฐานะสื่อกีฬาและเป็นแฟนบอลช้างศึกในคราวเดียว ที่ได้เข้าไปเกาะติดชมเกมแมตช์ฟีฟ่าเดย์ นี้เช่นกันที่สนาม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็ได้เห็นฟอร์มรวมถึงเห็นหลายมุมมองในเกมนี้ จึงอยากขอนำมาเล่าผ่านสวนอักษร คอลัมน์ ล้วงลูกบอลไทย วันนี้ ครับ
ธีรศิลป์ พร้อมรับบทจอมทัพ
ดาวยิงวัยเก๋าวัย 30 อัพรายนี้ ถือว่าเป็นการคืนทัพช้างศึกในรอบหลายนัด และยังเป็นการประเดิมสนามนัดแรกในสีเสื้อทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพ นิชิโนะ อีกด้วย เกมนี้ ธีรศิลป์ แดงดา หรือพี่มุ้ย ของน้องๆ โชว์ฟอร์มได้แจ่มจรัสมากๆ ยิ่งการคุมจังหวะเกมในแผงเกมรุก ในฐานะกองหน้าที่คอยเชื่อมเกม โดยเฉพาะจังหวะจ่ายบอลแทงซ้ายขวา ต้องบอกว่าทำได้ยอดเยี่ยม และเนียนตา เมื่อบวกรวมกับจังหวะสังหารที่เข้าขั้นสัญชาตญาณของยอดดาวยิงขนานแท้ ก็ยิ่งทำให้พลังเกมรุกดุดันมากขึ้นไปด้วย เรียกว่าเป็นการคัมแบ็ก ได้ถูกที่ ถูกเวลาจริงๆ กับทีมชาติไทย สำหรับกองหน้าดาวยิงทีมชาติไทย รายนี้
ศศลักษณ์ เลี้ยงมากเกินไป
ศศลักษณ์ ไหประโคน ได้รับโอกาสลงตัวจริงในเกมนี้ และโชว์ฟอร์มได้ดีมากๆคนหนึ่ง โดดเด่นด้วยลีลาการกระชากลากเลื้อย ในฐานะนักเตะตัวรุก ที่ไม่มีใครปฎิเสธ ในเรื่องของความเร็ว และความคล่อง ทว่าในเกมนี้ ผมมองว่า บางจังหวะ ศศลักษณ์ ยังมีการฝืน และพยายามมากเกินไป ที่จะพาบอลลุยไปเอง ทั้งๆที่ บางจังหวะดีกว่า หากจะจ่ายบอลให้เพื่อน จนบางจังหวะเลี้ยงติดและเสียบอล
กวินทร์ พร้อมชิงมือหนึ่งเฝ้าเสา
ไม่เรียกว่าเซอร์ไพรส์นักที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะลงมือ1 ในเกมนี้ เนื่องจากเป็นตามนโยบายของ นิชิโนะ ที่ต้องการโรเตชั่น นักเตะและทดลองดูฟอร์มเกมนี้สำหรับผม มองว่ากวินทร์ ภาพรวมถือว่าโชว์ฟอร์มได้ดี และมีจังหวะเซฟทำประตูได้ยอดเยี่ยมในบางจัหวะ แต่ด้วยการที่ร้างสนามไปนาน ไม่มีแมตช์ลงเฝ้าเสาเท่าไหร่ในการไปเล่นที่ต่างแดนเบลเยียม ก็มองว่ากวินทร์ ยังต้องปรับจังหวะพอสมควร เพื่อเรียกฟอร์มเก่งกวินทร์คนเดิมกลับมา การเสียประตูให้คองโกในมุมแคบ สะท้อนได้ดีในเรื่องของการเคลื่อนไหวและการเซฟประตู แต่ก็เชื่อว่าน่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะก่อนเจอยูเออี ก็มีเวลาเตรียมพร้อมฟิตซ้อมอีกหลายวัน มีโอกาสไม่น้อยที่ตอง จะสอดแทรกเป็นมือหนึ่งเช่นกัน อีกอย่างจุดเด่นก็เป็นเรื่องของความภาวะ ผู้นำ การสั่งการ ที่ผมว่าตองโดดเด่นมากๆในเรื่องนี้
หมาก นิชิโนะ ที่หลากหลาย
เกมครึ่งแรก หากให้คะแนนเต็ม 100 ผมให้ประมาณ 90 เพราะดูเหมือนว่านักเตะจะเล่นกันได้ลงตัวทีเดียว ทั้งการเข้ามาของ มุ้ย ที่ได้เล่นหน้าคู่กับ ศุภชัย ใจเด็ด ผสมผสานนักเตะดาวรุ่งอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา ในตำแหน่งเกมรุก และแผงหลังการปรับขยับโยก ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ดาวเตะสารพัดประโยชน์มายืนเซนเตอร์คู่ มานูเอล ทอม เบียห์ร ถือว่าโอเคและเข้าขากันอย่างดี ส่วนครึ่งหลังแม้รูปเกมจะไม่โดดเด่นนัก แต่การส่งกองหน้าอนาคต ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา และ บดินทร์ ผาลา ลงมาเติมรุก ก็ถือเป็นอีกแผนลับที่ นิชิโนะ มีอาวุธให้เลือกใช้งานได้มากขึ้น ไม่จำกัดเพียงรูปแบบการเล่นหน้าเดียวแน่นอน
ขาดเจ ไม่ขาดใจ
อาการบาดเจ็บของ เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สร้างความวิตกให้กับแฟนบอลไทยไม่น้อย เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าด้วยฟอร์มการเล่นของ ชนาธิป กับคอนซาโดเล ซัปโปโร เรียกว่าร้อนแรง เกินห้ามใจ แต่ด้วยทีมฟุตบอลที่เล่นเป็นทีมเหนือสิ่งอื่นใด คำว่าทีมเวิร์กย่อมมาก่อนวันแมนโชว์เสมอ และดูเหมือนว่านิชิโนะเข้าใจในข้อนี้ดี และพยายามอย่างเต็มที่ ในการให้นักเตะเล่นเป็นทีมให้มากที่สุด การผลักดันและให้โอกาสนักเตะหน้าใหม่ ดาวรุ่ง ลงเล่น คือคำตอบชัดในเรื่องนี้
แม้ในความจริง จะเป็นเรื่องที่นิชิโนะยังต้องใช้เวลา ในการหาทีมที่ดีที่สุด เพราะด้วยเงื่อนเวลาที่ นิชิโนะ จะเพิ่งเข้ามา แต่ทิศทางการทำทีมที่ดีต่อเนื่อง ทั้งเรื่องวินัย และระบบการเล่น ทีมชาติไทย ยุคนิชิโนะ ก็ถือวาเป็นเรื่องที่น่าติดตาม ตามลุ้น ตามเชียร์.
คอลัมน์ ล้วงลูกบอลไทย
เขียนโดย ยอดี้
