ศาสนาพุทธ หรือ ลัทธิสยอง เจ้าสำนักสงฆ์ตัดหัวตนเอง ถวายเป็นพุทธบูชา

เจ้าสำนักสงฆ์ตัดหัวตัวเอง เกิดเหตุสุดสยองขึ้นเมื่อวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู ได้มีญาติโยม ประชาชน พุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีสุดสยอง เจ้าสำนักสงฆ์ตัดคอตัวเอง เพื่อ ถวายเป็นพุทธบูชา โดยเพจ สายสืบ social ได้สรุปเหตุการณ์ดังกล่าวว่า จุดเริ่มต้น วันที่ 15 เมษายน 2564 ช่วงเช้า เจ้าหน้าตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุ ภิกษุรูปหนึ่งมรณะภาพอยู่ในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัด จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ

ก็พบกับสภาพศพที่น่าตกตะลึง พระที่มรณะภาพชื่อ พระธรรมกร ฐานธัมโม เป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์ภูหินกอง อายุ 68 ปี สภาพศพหัวถูกคมมีดตัดขาดออกจากตัว เป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ แต่ทั้งที่ตายอย่างผิดธรรมชาติ กลับไม่มีใครติดใจในการเสียชีวิตของพระรูปนี้ ทั้งญาติพี่น้อง ทั้งลูกศิษย์ พระลูกวัด แม่ชี ก็ไม่มีใครติดใจใดๆ ทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง ศพกลับถูกจัดการบรรจุอยู่ในโลงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แยกตัวไว้ในโลง หัวไว้ในกล่องไม้วางบนโลง ณ เวลานั้น ก็มีญาติพี่น้อง โยมศิษย์วัด อยู่ในเหตุการณ์มากมาย

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ

1) ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าวันที่ 17 เมษายน หลังเกิดเหตุไม่กี่วัน กลับไม่มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพเจ้าสำนักสงฆ์ที่เพิ่งเสียชีวิต แต่มีการววงพวงมาลัยบนแท่นบูชา 4 แท่นสีฟ้าและเทาหน้าศาลาการเปรียญแทน

2) ผู้สื่อข่าวบอกว่า การเสียชีวิตไม่มีการชัญนสูตรพลิกศพ เพราะไม่มีใครติดใจการเสียชีวิต และมีการฌาปนกิจไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 15 เมษายน วันเกิดเหตุ

3) พระลูกวัดบอกผู้สื่อข่าวว่า พระธรรมกร ถูกบั่นคอเสียชีวิตจริง ซึ่งเป็นความตั้งใจส่วนตัวของพระธรรมกรเอง เป็นการถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

4) เพราะคนใกล้ชิดรู้ตัวดีอยู่แล้วว่า พระธรรมกร ต้องตั้งใจจะแบบนี้อยู่แล้วตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน มีการเตรียมการไว้แล้ว จึงไม่มีใครติดใจการเสียชีวิตของ พระธรรมกร

5) ผู้สื่อข่าวไปขอรายงานจากตำรวจท้องที่ ก็พบว่ามีรายงานไปในลักษณะเดียวกับพระลูกวัด แต่มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า พระธรรมกร ตัดคอตัวเองด้วย กิโยติน เครื่องประหารสมัยโบราณ

การตายของพระ ธรรมกร

1) กิโยติน ถูกสร้างขึ้นเอง เป็นเสาไม้ตั้งสูงสองเสา มีใบมีดใหญ่กว้าง 4 นิ้ว ยาว 1 เมตรอยู่ตรงกลาง มีถังทรายถ่วงน้ำหนักอยู่สองด้าน มีเชือกดึงไว้เปิดกลไกให้ใบมีดตกลงมา

2) พระธรรมกร ได้มีการเขียนจดหมายลาตายเอาไว้แล้ว บอกว่าตัดสินใจไว้ตั้งแต่ 5 ปีก่อน มาครบกำหนดในวันที่ 15 เมษายน

3) ที่ทำไปเพราะต้องการถวายหัวเป็นพุทธบูชา เชื่อว่าจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ต่อไป

จุดเกิดเหตุในวัด

1) ที่จุดทำพิธีของ พระธรรมกร มีหุ่นปั้นเป็นชายสวมชุดโบราณถูกตัดหัว และเอาหัววางบนสองมือยื่นออกไปทางเจดีย์สรรพสังวรเจดีย์ หน้าหุ่นปั้นมีคำอธิษฐานถวายชีวิตสลักอยู่ ด้านหลังมี กิโยติน สูง 4 เมตร

2) ตอนหนึ่งในคำอธิษฐาน มีบอกว่า “ข้าพระพุทธเจ้า ขอสักการะบูชา พระบรมสารีริกธาตุ สมเด็จพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยศรีษะของข้าพระพุทธเจ้า” “ด้วยกุศลแห่งการบูชานี้ จงเป็นพละปัจจัย เป็นอุปนิสัย ตามส่งให้ข้าพระพุทธเจ้า บรรลุปัจเจกโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาล เบื้องหน้านี้ด้วยเทอญ”

3) หุ่นและกิโยตินนี้ พระธรรมกร ญาติโยมศิษย์วัด เป็นคนช่วยกันสร้างขึ้นเอง

ไทม์ไลน์วันเกิดเหตุ

1) ตำรวจให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุ เป็นวันคล้ายวัดเกิดของ พระธรรมกร ครอบ 68 ปีพอดี เวลา ตี 5 20 นาที พร้อมพระและแม่ชีในสำนักสงฆ์ ก็มาทำวัตรเช้าสวดมนต์ในศาลาการเปรียญตามปกติ มีครอบ ญาติธรรม ศิษย์วัดสวมชุดขาวสวดมนต์อยู่ด้วย2) ระหว่างนั้น พระธรรมกร ก็เดินลงมาจากศาลา ไปที่เครื่องกิโยติน ไปถึงก็นั่งยองๆ เอาหัวพาดไปที่จุดตกของใบมีด แล้วใช้มีดตัดเชือกที่ผูกไว้ มีก็ตกลงมาตัดคอพอดี ขาดกระเด็นจากร่าง 3) เสียงของศิษย์วัดหญิงคนหนึ่งบอกว่า ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น บอกว่านี่คือการสร้างบารมี ไม่มีใครทำให้ท่านตาย เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า พระธรรมกร ไม่ได้วิกลจริต ไม่ได้ปิดบัง บอกล่วงหน้ามาแล้วถึง 5 ปี 4) ศิษย์วัดหญิงกล่าวว่า คนในวัดกำลังสวดมนต์อยู่ ไม่มีใครเห็นตอนที่ พระธรรมกร กระทำการ แต่มาเห็นท่านก็ตัดคอตัวเองไปแล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นการทำบารมีอย่างหนึ่ง5) ศาลาที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจุดเกิดเหตุแค่ 10 เมตร 6) ผู้สื่อข่าวตรวจสอบการโพสต์เฟซบุ๊คของศิษย์วัด พบว่ามีการโพสต์ลักษณะรู้อยู่แล้วว่าจะมีเหตุ และโพสต์ถึงการถวายหัวเป็นพุทธบูชาอยู่

พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ให้ความเห็น

1) พระมหาไพรวัลย์ พระนักเทศน์ชื่อดัง ให้ความเห็นเรื่องนี้บนเฟซบุ๊ค “ไม่มีคำสอนไหน ที่พระพุทธเจ้าสอนให้คนตัดหัวตัวเองเพื่อถวายเป็นพุทธบูชานะโยม ศึกษาธรรมะ ต้องระวังให้ดี อย่าไปตีความคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบผิดๆ “

2) ไสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านต้องการคือการได้เห็นคนที่ปฎิบัติตามคำสอนของท่านแล้วมีชีวิตที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ละความทุกข์ได้มากขึ้น ท่านไม่ต้องการให้ใครมาสละชีวิตหรือถวายหัวเพื่อท่านหรอก”

3) “อย่าไปเชื่อว่า การสละชีวิตตัวเอง จะทำให้ได้เป็นนั่นเป็นนี่ ได้ตรัสรู้ ได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ธรรมะเป็นสิ่งที่ปฎิบัติได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องฆ่าตัวตายเพื่อไปรอผลชาติหน้า”