อดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ปี 2561 บินกลับไทยเพื่อต่อสู้คดี หลังลี้ภัยไปเยอรมนี นาน 7 ปี ล่าสุดเข้าสอบปากคำกับตำรวจสอบสวนกลางแล้ว
ช่วงเช้าวันที่ 5 มิถุนายน 2568 พระจำนงค์ ธัมมจารี หรืออดีตพระพรหมเมธี อายุ 84 ปี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ต้องหาในคดีความผิดร่วมกันฟอกเงินจากคดีเงินทอนวัด เมื่อปี 2561 ได้เดินทางจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี กลับมาประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมาย หลังจากลี้ภัยไปอยู่เยอรมนีตั้งแต่ปี 2561 หรือเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อดีตพระพรหมเมธี มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 06.30 น. โดยนั่งรถเข็นลงจากเครื่องบิน และมี นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา และลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด มารอให้การต้อนรับ ก่อนจะขึ้นรถตู้ออกไปจากสนามบิน ซึ่งรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้นำตัวอดีตพระพรหมเมธี มาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมีนายตำรวจระดับสูงเข้าร่วมสอบปากคำด้วย
สำหรับคดีเงินทอนวัดนั้น อดีตพระพรหมเมธีถูกดำเนินคดีในข้อหาทุจริตและร่วมกันฟอกเงิน สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ม.157 ซึ่งการสอบปากคำครั้งนี้ พนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวตามกฎหมาย 48 ชั่วโมง ส่วนอดีตพระพรหมเมธีจะให้การรับสารภาพ หรือให้การปฏิเสธ หรือเปล่งวาจาสึกในระหว่างการสอบปากคำหรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิ์ที่เจ้าตัวสามารถทำได้
ขณะเดียวกัน หากอดีตพระพรหมเมธีจะยื่นขอประกันตัว ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากอดีตพระพรหมเมธีได้เดินทางจากต่างประเทศเข้ามามอบตัวต่อสู้คดีด้วยตนเอง ส่วนการจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากพยานหลักฐานถูกเก็บรวบรวมอยู่ในสำนวนเรียบร้อยแล้ว
