ตำรวจไซเบอร์ ส่งสำนวนคดี คลิปเสียงฮุนเซน ให้อสส.พิจารณา พร้อมลุยสอบ สีกากอล์ฟ เล่นพนันหมดไป 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 พร้อมพนักงานสอบสวน นำสำนวนคดีคลิปเสียงสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา คุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
โดยคดีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องหลังจากที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ฐานเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการเผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองและสร้างความแตกแยกให้ประชาชนชาวไทย เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับการเดินทางมายื่นสำนวนครั้งนี้ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 พร้อมพนักงานาอบสวนได้นำสำนวนจำนวนทั้งสิ้น 1 แฟ้มเอกสารถ้วน ประมาณ 50 หน้า ให้กับอัยการสูงสุด โดยมีนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการและโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 รับแจ้งความร้องทุกข์จากรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอนและเข้าองค์ประกอบความผิด ตามมาตรา 116 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จริง รวมทั้งพิจารณาแล้วเห็นว่า เพจ Facebook ดังกล่าวมี Admin อยู่ในประเทศกัมพูชา
จึงมีความเห็นว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร จึงได้ส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 เพื่อให้อัยการสูงสุด ดำเนินการพิจารณาและเป็นพนักงานสอบสวนตามกฎหมาย เพื่อกล่าวโทษแอดมินเพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน
ทั้งนี้ แอดมินเพจดังกล่าวมีจำนวนกี่คนนั้น พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่ามีมากกว่า 1 คนแน่นอน ส่วนจะมีการกล่าวโทษถึงสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น ไม่ขอเปิดเผยเพราะอยู่ในสำนวน
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ในคดีนี้เป็นประเด็นเรื่องคลิปเสียงที่พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ส่วนประเด็นคลิปเสียงเรื่องที่กล่าวอ้างว่า สมเด็จฮุน เซ็น สั่งฆ่านักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวร้องทุกข์นั้น เป็นคนละประเด็นกันและคดีนี้ยังอยู่ในการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ยืนยันว่า ทางพนักงานสอบสวนได้ดำเนินกระบวนการตามกฎหมายทุกประการ ซึ่งตอนนี้อำนาจการสอบสวนได้โอนไปยังอัยการสูงสุดเป็นที่เรียบร้อย เน้นย้ำว่า นี่ไม่ใช่เป็นการดำเนินคดีแก้เกี้ยว เมื่อมีคนแจ้งความร้องทุกข์ ทางตำรวจก็ต้องดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีหากพบความผิด โดยทางตำรวจไม่มีความกดดันในการทำคดี แต่ยอมรับว่า คดีนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน เพราะอาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทางตำรวจจึงต้องทำสำนวนคดีอย่างรอบคอบและเป็นไปตามพยานหลักฐานที่มี
ด้านนายศักดิ์เกษม กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว หลังจากนี้ทางอัยการสูงสุด จะนำสำนวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ เพื่อลงความเห็นว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ หากเห็นว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรจริง ก็จะมีความเห็นตามและมีคำสั่งตั้งพนักงานอัยการของสำนักงานการสอบสวนเป็นพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบข้อความ โดยต้องดูว่า มีเจตนาประสงค์ให้เกิดผลในราชอาณาจักรตามองค์ประกอบความผิดหรือไม่
หากมีพยานหลักฐานเพียงพอและพบเป็นการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการส่งสำนวนกลับไปยังอัยการสูงสุดเพื่อทำความเห็นสั่งฟ้อง หากอัยการสูงสุดมีความเห็นพ้องสั่งฟ้องตาม จึงจะดำเนินการขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับและถึงค่อยประสาน Interpol หรือตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดงต่อไป
นายศักดิ์เกษม ยังระบุอีกว่า คดีนี้ในส่วนของอัยการจะดำเนินการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะยอมรับว่าคดีดังกล่าวมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ไม่กดดันในการทำงาน เพราะทางอัยการดำเนินการตามพยานหลักฐาน
ส่วนจะต้องเชิญ น.ส.แพทองธาร มาให้ปากคำ หรือให้ข้อมูลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนของการรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีเพียงพอหรือไม่ หรือมีความเห็นที่ควรจะต้องเรียกบุคคลในคดีมาให้การเพิ่มเติมหรือไม่ คดีนี้เป็นการดำเนินคดีบุคคลสำคัญในต่างประเทศ ซึ่งต้องยึดตามพยานหลักฐานว่าเพียงพอแจ้งข้อหาความผิดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยยังไม่เคยมีการฟ้องดำเนินคดีกับผู้นำต่างประเทศมาก่อน
ทั้งนี้คดีดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการที่จะดำเนินการสอบสวนซึ่งเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทางรัฐบาล จึงไม่สามารถจะเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงได้ แต่ยอมรับว่า ติดขัดปัญหาในเรื่องของสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ประเทศไทยและกัมพูชาไม่มีสัญญาดังกล่าวระหว่างกัน อย่างไรก็ตามสำหรับคดีนี้ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเนื่องจากเป็นคดีสำคัญและถือว่ามีความละเอียดอ้อนเป็นอย่างมาก
ตำรวจไซเบอร์ เดินหน้าตรวจสอบ สีกา กอล์ฟ เล่นเว็บพนัน
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เผยถึงกรณี
ที่ได้มีการเชิญ สีกา กอล์ฟ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเล่นพนันออนไลน์ของสีกา กอล์ฟ เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า เบื้องต้นสีกา กอล์ฟ ให้ความร่วมมืออย่างดี ว่าเล่นเว็บพนันอะไร เล่นอย่างไร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอข้อมูลเส้นทางการเงินกับทางธนาคาร ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลดังกล่าว จึงเร่งรัดพนักงานสอบสวน ให้รีบประสานกับธนาคารขอให้ส่งข้อมูลดังกล่าวมาโดยเร็ว เพื่อนำมาวิเคราะห์ หากพบว่ามีการเล่นพนันจริง จะเรียก
สีกา กอล์ฟ มาแจ้งข้อหาดำเนินคดี ต่อไป
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระที่เกี่ยวข้องกับสีกา กอลฟ์ ว่าไปเชื่อมโยงกับเว็บพนักด้วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบ ส่วนเส้นทางการเงินระหว่างสีกา กอล์ฟ และ พระ เป็นหน้างายของ บก.ปปป. ซึ่งได้มีการแยกหน้าที่การทำงาน