พลตำรวจตรีกัมพล อดีตผู้การฯ ชลบุรี ถูกฟันข้อหาเพิ่ม! ‘คดีเป้รักผู้การฯ’ ตำรวจรีดไถเงิน 140 ล้าน เข้าข่าย พรบ.อุ้มหายฯ รวมแล้ว 22 ราย
วันที่ 25 มกราคม 2567 รองผบ. ตร. ได้มีการประชุมกับคณะสอบสวนโดยมีการกำกับดูแลติดตามโดยท่านอัยการ คุณวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด
เนื่องจาก คดีเป้รักผู้การฯ เข้าข่ายพรบป้องกันปราบปรามการทรมานทำให้บุคคลอื่นสูญหาย หรือที่เราเรียกว่า พรบ.อุ้มหาย ซึ่งสำนวนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพื่อให้พ้นข้อครหาว่าตำรวจจะช่วยตำรวจด้วยกันหรือไม่? ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ปีที่แล้ว กับที่มาของเรื่องราวต้นกำเนิด ประโยคที่ว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่เป้เขียนมา”
สืบเนื่องจาก ตำรวจสภ.คูคตจังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย 6 คน ซึ่งตามสำนวนที่แจ้งความคือ วันที่ 23 พฤษภาคม ก็พบว่ามีตำรวจที่บุกไปจับกุมผู้ต้องหา 6 รายในเขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร มีการจับกุมตัวนายธานินทร์ หรือว นายเป้ ถูกควบคุมตัวที่ สน.คันนายาว
แต่แล้วก็มีการพาตัว นายเป้ พาไปที่ตำรวจภูธรชลบุรี จนกระทั่งนายเป้ ได้ไปพบกับ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีในขณะนั้น และมีการพูดถึงเส้นทางการเงินและการพัวพัน ซึ่งผู้การฯได้บอกกับเป้ ว่า “ไม่เป็นไร เป้พี่มีทางออก เป้รักผู้การเท่าไหร่เป้เขียนมา”
ได้ข้อสรุปว่า จะดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ กับผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจทั้งหมด 17 นาย รวมถึงพลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภากรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และพลเรือนที่ร่วมกับตำรวจทั้ง 17 นายกระทำความผิดในฐานดังกล่าวอีก 4 นาย นอกจากนี้ ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมอีก 1 ราย เนื่องจากพบพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ตำรวจจะถูกแจ้งข้อหาในฐานทำผิดกฏหมายพรบอุ้มหายกี่คน
นายวัชรินทร์ กล่าวว่า วันนี้การประชุมครั้งที่สามเราได้มีการประชุมกันตั้งแต่เช้าเพื่อความละเอียดครอบคลุม และเป็นธรรมที่สุด ซึ่งเราสอบพยานไปทั้งหมดแล้ว 136 ปาก และในส่วนของการพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับบุคคลใดบ้าง วันนี้ได้ข้อสรุปแล้วแล้วจะมีการดำเนินคดีในเรื่องของกฎหมายจำนวน 22 ราย
หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 22 คนให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในวันที่ 12- 13 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนเพื่อมีความเห็นทางคดีก่อนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ซึ่งระหว่างนี้ผู้ต้องหามีสิทธิ์อ้างพยานหลักฐานต่างๆ มาประกอบการสอบสวนเพื่อต่อสู้คดีได้ เนื่องจากกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นการเริ่มต้นสืบสวนคดีเพราะ มีพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดจริง แต่ยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้อง
ด้าน พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้ดำเนินการสอบสวนพยานเสร็จสิ้นไปแล้ว 136 ปาก และยืนยันจะ ดำเนินการสรุปสำนวนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภายใน 60 วัน
สำหรับ พลตำรวจตรีกัมพล ลีลาประภากรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ก่อนหน้านี้ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตาม มาตรา 157 ละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, มาตรา 149 เรียกหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ , มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำหรือไม่กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เพิ่มเติมในวันนี้