โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจง ตำรวจไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกรับผลประโยชน์ จาก ผู้บำบัดวัดท่าพุฯ จ.กาญจนบุรี
วานนี้ที่ 23 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่นายนายจิรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พร้อมทนายความพาผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตผู้บำบัดจากศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ที่วัดท่าพุราษฎร์บำรุง ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ประมาณ 10 คน เข้าร้องทุกข์กับทางพนักงานสอบสวนบก.ป. เพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ดังกล่าว รวมทั้งมีการกล่าวพาดพิงถึงตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์
และภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าไปมีส่วนในขบวนการพาผู้ป่วยส่งบำบัดเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ว่า ตนได้ตรวจสอบไปยัง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ระบุว่า ตำรวจร้อยเอ็ดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผลประโยชน์การนำผู้ป่วย หรือผู้เสพยาไปบำบัดรักษาที่ จ.กาญจนบุรี โดยผู้ที่นำผู้ป่วยไปส่ง เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือตำรวจ ซึ่งสถานบำบัดดังกล่าวมีการเรียกค่าใช้จ่ายตามปกติอยู่แล้ว ตรงนี้อาจจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่ก็จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็จะดำเนินการทางวินัยและอาญา ส่วนทาง ผบก.จว.กาฬสินธุ์ ยังไม่มีการชี้แจงรายละเอียดดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ที่ สภ.อำเภอสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พลตำรวจตรีไพโรจน์ มังคลา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พร้อมรองผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ผู้กำกับสภ.สุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องเพจหมอปลากล่าวถึง สภ. มีส่วนได้เสียในการนำผู้เสพยาเสพติดไปบำบัด ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าวที่ถูกโจมตี
โดยได้ให้ฝ่ายผู้ปกครองที่ได้นำลูกเข้าไปบำบัดที่วัดท่าพุราษฏร์บำรุง นำส่งโดย นายตี๋ พร้อมทีมงานอีก 4 คน ซึ่งแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 24,000 บาท การเดินทางเป็นการเดินทางไปประสานตกลงกันเองกับอาสาตำรวจ เรื่องที่เกิดขึ้นจากการโจมตีให้ร้ายของหมอปลาเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ซึ่งตำรวจและคนพาไปจึงแจ้งความดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความชัดเจน และยืนยันกับประชาชนที่เข้าใจผิด ได้เข้าใจข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมทางสังคมด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก โปลิศไทยแลนด์ – Police Thailand News / amarintv