นายกฯ ยืนยันรัฐบาลยังไม่ได้สรุป ลดวาระกำนัน5ปี ขออย่าออกมาเคลื่อนไหว
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่ได้ข้อสรุป หรือ แนวทางดำเนินการ เรื่องการลดวาระการดำรงตำแหน่งกำนัน เหลือ 5ปี และการประเมินผลการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน หลังสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. เห็นชอบรายงานแล้ว ซึ่งตามขั้นตอน รัฐบาลจะต้องพิจารณาทบทวนรายงานของ สปท. ก่อนเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งสามารถปรับแก้เนื้อหาจากรายงานของ สปท. ได้ จึงขอความร่วมมือสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน กำชับให้กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ไม่ควรเคลื่อนไหวใดๆในเวลานี้ เพราะอาจถูกครหาว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อประโยชน์ส่วนตัวได้
นายกฯย้ำอยู่ระหว่างพูดคุยสันติสุข
นายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือทุกฝ่าย ไม่ควรขยายความ กรณีแถลงการณ์บีอาร์เอ็น ที่เรียกร้องให้รัฐไทยจริงใจในการพูดคุย และให้มีคนกลาง ผู้สังเกตการณ์จากประเทศอื่นในการพูดคุย โดยย้ำว่าขณะนี้อยู่ในกระบวนการพูดคุยสันติสุข โดยมีประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ดังนั้นข้อเสนอ หรือข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้เห็นต่าง จะต้องแจ้งความประสงค์ผ่านผู้อำนวยความสะดวก แต่ย้ำในหลักการว่า ไม่มีความจำเป็นต้องให้องค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นกิจการภายในของรัฐ
นายกฯเผย ยกเลิกม.44คุมวัดธรรมกายบางส่วน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เสนอให้มีการยกเลิกการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้พิจารณาให้มีการยกเลิกข้อบังคับเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายบางส่วน แต่ยังคงให้คำสั่งมาตรา 44 ที่ประกาศอยู่เดิมนั้นมีผลบังคับใช้อยู่ ทั้งนี้ถ้ามีปัญหาความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นอีก ก็สามารถประกาศใหม่ได้
นายกฯย้ำห้ามนั่งท้ายกระบะมียาวนาน
พลเอกประยุทธ์ กล่าวถึง เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องห้ามนั่งกระบะท้าย ที่แม้จะมีการผ่อนปรนแล้ว แต่ประชาชนยังกังวลว่าในระยะยาวจะได้รับผลกระทบ ว่า มาตรการที่ออกมาเป็นการทำใ้ห้ประชาชนเกิดความตื่นตัวมากขึ้น และระหว่างนี้เป็นการเตรียมให้ประชาชนมีการปรับตัว ถึงแม้ว่าอาจจะปฏิบัติไม่ได้ทั้ง100% แต่ยืนยันว่าการบังคับใช้กฎหมายจะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะยกเลิกกฎหมายที่เกี่ยวกับการควบคุมการจราจร ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาแล้วกว่า 20 ปี โดยมาตรการที่ออกมาถือว่าเป็นมาตรการที่เพิ่มความเข้มงวด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ ยอมรับว่ามาตรการที่ออกมานั้นอาจจะทำให้ประชาชนเกิดความยากลำบากในการเดินทาง แต่รัฐบาลได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหา ด้วยการปรับปรุงระบบขนส่งมวลชน ซึ่งอาจจะไม่แล้วเสร็จในระยะเวลาอันสั้น
นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้มีการเก็บสถิติสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุและสูญเสียว่ามาจากอะไรบ้าง เช่นจากรถจักรยานยนต์ การไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถเร็วกว่ากำหนดและการดื่มสุรา ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมาประชาชนไม่เคารพกฎจราจรและดื่มสุรามากขึ้น ส่วนการคาดเข็มขัดนิรภัย ถือเป็นการช่วยผ่อนหนักเป็นเบา แม้อาจจะไม่สามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนขับด้วย