มาติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลกันบ้าง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรี ทดลองใช้ระบบ e-ticket ขึ้นรถเมล์ ที่ขสมก. เตรียมเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งจะรองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรผู้มีรายได้น้อยด้วย ขณะที่นายกรัฐมนตรีแนะนำให้ขสมก. เตรียมแนวทางแก้ปัญหา ที่จะตามมาโดยเฉพาะการจราจรที่อาจสะสมจากการจอดให้ใช้บริการระบบดังกล่าว ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่าการขึ้น-ลงแบบเดิม
ทั้งนี้รถโดยสารประจำทางจะใช้ได้ทั้ง 2 ระบบ ทั้งการจ่ายเงินและใช้บัตร ระยะแรกทำได้เท่านี้ก่อน หลังจากนี้ จะพิจารณาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในระยะ 2 ต่อไป ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลประชาชน
ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีทดลองใชระบบ E-Ticket บนรถเมล์ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการ ขสมก. รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ขสมก. เข้าร่วมการเยี่ยมชมด้วย
ทั้งนี้ ขสมก. ได้นำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) และระบบ GPS มาติดตั้งบนรถโดยสารประจำทาง เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการ ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก ปลอดภัย และสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ได้ทุกระบบ เบื้องต้นจะติดตั้งเครื่องอ่านบัตรและเครื่องเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติบนรถโดยสารธรรมดา จำนวน 800 คัน เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรผู้มีรายได้น้อยของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป
ส่วนระบบ GPS ติดตั้งในตัวรถโดยสารประจำทาง และกล้องวงจรปิดภายในและนอกรถ จะสามารถบอกพฤติกรรมการขับรถของพนักงาน หากมีการฝ่าฝืนกฎจราจร หรือขับออกนอกเส้นทาง และยังสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวภายในตัวรถ หากมีมิจฉาชีพ หรือ ผู้วิกลจริต แฝงตัวมาก่อเหตุบนรถโดยสารประจำทาง พนักงานขับรถและผู้ควบคุมศูนย์จะเห็นได้ชัดเจน และสามารถแก้สถานการณ์ได้ทันท่วงที