วงการผ้าเหลืองฉาวอีกแล้ว เจ้าอาวาสวัดดังซื้อบริการ สวิงกิ้งด.ญ. 13 ปี และ 17 ปี ข่มขู่หนัก ถุงยางอนามัยไม่ใส่ แถมมีคลิปส่งกลุ่มพระ
2 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปกครองพาเด็กหญิงแอน อายุ 13 ปี และ นางสาวเฟิร์น อายุ 18 ปี หญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ชักชวนชื่อบริการทางเพศจำนวนหลายครั้ง พร้อมกับข่มขู่หากไม่ยินยอมจะไม่ให้เข้ามาที่วัด
นางสาวเฟิร์น เปิดเปยว่า ตนเองมีแฟนหนุ่ม ที่เป็นลูกศิษย์ของพระและพักอาศัยอยู่ที่วัด จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้มาข่มขู่แฟนหนุ่มของตนเอง หากต้องการจะอยู่ที่วัดและไม่อยากถูกทำร้ายร่างกายให้นำตนเองมาขายบริการให้กับเจ้าอาวาส ในราคา 1,500 บาท ทำให้ตนเองต้องยอมให้เจ้าอาวาสบ่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งครั้งแรกๆ ยังมีการจ่ายเงินในราคา 1,500 บาท แต่บางครั้งไม่ได้ให้เงิน อ้างค่อยมาเอาทีหลังในะระยะเวลา 2 ปี ตนเองมีอะไรกับทางเจ้าอาวาส 3-4 ครั้ง ในช่วงปี2566 หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อหรือเข้าไปภายในวัด
จนกระทั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ตนเองได้พาเด็กหญิงแอน อายุ 13 ปี เข้าไปเดินเที่ยวไปในวัด ทำให้ทางเจ้าอาวาสรายดังกล่าวเห็น และเกิดความพอใจในตัวเด็กหญิงแอน ก่อนจะติดต่อตนว่าอยากจะได้เด็กหญิงแอน และพยายามให้ตนติดต่อเด็กหญิงแอนให้มามีอะไรด้วย พร้อมกับข่มขู่ว่าหากไม่ทำตามจะไม่ให้พักอาศัยอยู่ภายในวัด พร้อมกับเสนอเงินให้ 1,500 บาท แลกกับการขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย จนกระทั้งตนต้องยอมพาเด็กหญิงแอน เข้าไปหาเจ้าอาวาสในกุฎิ ก่อนที่เจ้าอาวาสได้บอกให้ตนเองและเด็กหญิงแอนถอดเสื้อผ้า ก่อนที่จะบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ลักษณะสวิงกิ้งร่วมกัน ทุกครั้งที่อยู่ภายในห้องและมีอะไรกัน ภายในห้องจะมีกล้องวงจรปิดซึ่งไม่มั่นใจว่ามีการบันทึกภาพในช่วงจังหวะที่มีมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่ แต่มีข้อมูลว่าทางจังหวัดดังกล่าวมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปเปิดเผยกับทางกลุ่มพระด้วยกัน ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ยอมรับว่าทางเจ้าอาวาสรายดังกล่าวกลับไม่ยอมป้องกัน และไม่ใส่ถุงยางอนามัย และทุกครั้งที่น่ากังวลคือเวลาตนเองเดินทางเข้าไปหาวัด จะมีลูกศิษย์ของ เจ้าอาวาสในการยืนคุมอยู่บริเวณด้านหน้าคล้ายดูต้นทางด้วยทุกครั้ง

ด้าน “เด็กหญิงแอน ” เด็กหญิงวัย 13 ปีเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองได้ไปเที่ยวกับเพื่อนรุ่นพี่ รุ่นพี่ก่อนที่จะมีการเดินเข้าไปภายในกุฎิของเจ้าอาวาส และมีการนำเสนอเงินพร้อมกับข่มขู่ หากไม่ยินยอมจะไม่ให้เข้าไปไปเที่ยวในวัด และเจอกับเพื่อนชายที่ตนเองชอบ ด้วยความที่ตนเองรู้สึกกลัวเลยหลงเชื่อและยอมทำตาม จนกระทั่งถูกเจ้าอาวาสล่วงละเมิดทางเพศครั้งแรกในวันนั้น
จนกระทั้งวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ทางเจ้าอาวาสได้มีการทักแชทมาหาตนเองอีกครั้งและบังคับให้ตนเองเข้าไปหาภายในกุฎิ และขอมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง ตนเองจึงต้องยินยอมเพราะถูกข่มขู่ลักษณะคล้ายแบบเดิม สุดท้ายเมื่อตนเองยิมยอมทางเจ้าอาวาสกลับไม่ยอมให้เงินตามที่สัญญาไว้ และทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์จะเอาวาสจะไม่ใส่ถุงยางอนามัยแต่อย่างใด
กระทั่งเวลาผ่านไปตนเองพยายามปิดเรื่องดังกล่าวไว้แต่กลับมีคน รอบข้างกลับรู้เรื่องก่อนที่จะนำมาล้อเรียนตนเองจนเรื่องดังกล่าวรู้ไปถึงครอบครัว จนแม่และพ่อมาถาม ทำให้ทางครอบครัวรับไม่ได้จึงมีการเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ศรีราชา แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับตำหนิ หาว่าแม่ดูแลลูกไม่ดีก่อนที่จะให้ทางคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย ทางครอบครัวจึงยอมไม่ได้จึงมีการเข้ามาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด

แฟนเหยื่อเผยโดนรุมทำร้าย ถ้าไม่ยอมพาเด็กมาส่งเจ้าอาวาส
ด้านแฟนหนุ่มของผู้เสียหาย อายุ 18 ปี ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ร่วมมือกับพระรูปดังกล่าว แต่พี่ต้องยอมเพราะถูกข่มขู่จากพระรูปนี้และลูกศิษย์ว่าหากไม่ยอมจะรุมทำร้ายหรือรุมกระทืบและไม่ให้มาทำงานที่วัดอีกจึงต้องจำใจ
ทั้งนี้ที่ผ่านมารับรู้พฤติการณ์ของพระรูปดังกล่าวมาโดยตลอด ว่าจะทำการเสพเมถุนเสพสังวาสกับผู้ชายที่เป็นลูกศิษย์ด้วยกัน บางครั้งก็ติดต่อแม่เล้าพ่อเร้าให้นำเด็กชายหน้าตาดีมาให้ หรือบางครั้งก็เป็นสาวทอม อีกครั้งยังชอบแบบสังวาสเสพเมถุนกับลูกศิษย์หน้าตาดีภายในวัดบางครั้งก็เป็นเซ็กหมู่ นอกจากนี้พระรูปดังกล่าวยังให้เขาวิ่งไปรับยาเสพติดประเภทเคตามีนบ่อยครั้งโดยให้ค่าจ้าง
นอกจากนี้ยังได้ข้อมูลจากลูกศิษย์วัดด้วยกันว่าพระรูปดังกล่าวมีน้องชายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในช่วงแรกตนเองยังไม่เชื่อ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จะมีตำรวจมาตรวจสอบภายในวัดและจับพระรูปดังกล่าวมาตรวจสารเสพติด แต่ก็ไม่พบ เพราะมีคนบอกพระรูปดังกล่าวให้รู้ตัวก่อนจึงหยุดเสพจนตรวจไม่พบ

แม่เหยื่อลั่นพาลูกแจ้งความแต่โดนตำรวจตำหนิทำไมไม่ดูแล
มารดาของน้องผู้เสียหายอายุ 13 ปี เปิดเผยว่ามาสร้างเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังลูกสาวมาปรึกษาว่าถูกเพื่อนที่วัดล้อ เรื่องซักไซ้ไล่เรียงจนทราบว่าถูกพระผู้แต่งกายล่วงละเมิด ยอมรับว่าขณะนั้นตกใจมากและรู้สึกเสียใจว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวเอง ส่วนหนึ่งมาจากที่ตนเองทำงานและไม่ได้ดูแลลูก
ทั้งนี้หลังทราบเรื่องได้รีบพาลูกสาวไปแจ้งความที่สภ. ศรีราชา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับตำหนิที่ตนเองมาแจ้งความช้าและยังแนะนำให้เจรจากับพระที่ก่อเหตุทั้งที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี และทำการสอบปากคำในเบื้องต้นแต่กลับไม่มีการสอบปากคำอย่างเป็นทางการกับสหวิชาชีพ จนเวลาล่วงเลยมา ยืนยันว่าคดีนี้ตนเองจะไม่ยอมความกับพระรูปดังกล่าวอย่างเด็ดขาดและขอให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด


