นายกรัฐมนตรี แจงใช้ม.44 แค่ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ ยืนมีเหตุผลไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเมื่อวานนี้(9 ส.ค.) ว่า ได้สั่งให้มีการปรับแผนโดยดำเนินการทั้งการแก้ปัญหาและปัญเทาความเดือดร้อนทั้งการขุดลอกคูคลอง และการทำคลองผันน้ำ แต่ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนในการเสียสละพื้นที่บ้าง ซึ่งรัฐบาลก็จะหามาตรการในการดูแลเยียวยาให้เหมาะสม ส่วนการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการน้ำโดยให้กรมทรัพยากรน้ำมาสังกัดภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรีนั้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ซึ่งไม่ได้นำทุกหน่วยงานมาอยู่กับรัฐบาล และไม่ใช่ว่าดำเนินงานไม่ได้ผล แต่ที่ผ่านมาไม่มีการเชื่อมโยงกัน รวมถึงสั่งการวางกรอบนโยบายดูแลงบประมาณในการบูรณาการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการออกมาตรา 44 นั้นเพื่อใช้ระหว่างรอกฎหมาย ซึ่งทุกอย่างก็เป็นกฎหมายหมด ไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ ทำแล้วต้องมีเหตุผล เพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อน บูรณาการ และแก้ไขปัญหากฎหมายที่ขัดแย้งกันอยู่ ซึ่งในขณะเดียวกันกฎหมายกำลังแก้ไขอยู่ในสภา ต้องปลดล็อคไปก่อน แต่ไม่ออกนอกกรอบความเป็นสากล ซึ่งรายละเอียดจะสรุปในรายการศาสตร์พระราชาฯ ในวันศุกร์ที่ 11 ส.ค.นี้ พร้อมระบุอีกว่า ในปี 2560-2561 ที่จะต้องเร่งดำเนินการในส่วนของความยั่งยืน พื้นที่ไหนที่น้ำท่วม พื้นที่ไหนที่แล้ง อย่างน้อยต้องแก้ปัญหาได้ 30-50% เพราะถ้าแก้ 100% ต้องทำใหญ่มาก ต้องใช้ทั้งงบประมาณ เวลา และต้องทำต่อไป