ปัดฝุ่น “ภราดรภาพ” ยุคใหม่ ! ลุ้นโอกาสพรรคเล็กสู้เลือกตั้ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2560 เปิดโอกาสให้ก่อเกิดพรรคการเมืองหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย เพื่อเข้ามาช่วงชิงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ไม่เว้นแต่ “พรรคภราดรภาพ” ได้กลับมาเปิดตัวให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกต่อการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ถือเป็นโอกาสที่พรรคขนาดเล็ก จะเข้ามาประกาศจุดยืนและเดินหน้าหาแนวร่วมผู้สนับสนุน ฉีกภาพไม่ใช่แค่ “ไม้ประดับ” เหมือนเช่นที่ผ่านมา
“พันธ์ยศ ภราดรภาพ” เลขาธิการพรรคภราดรภาพ ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ไบรท์ นิวมีเดีย” ถึงยุทธศาสตร์พรรค เพื่อเตรียมต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งนี้
จุดเริ่มต้นของพรรคภราดรภาพ
-พรรคเป็นภราดรภาพยุคใหม่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค จากกลุ่มเดิมเป็นกลุ่มมุสลิม แต่ได้มาจับมือกันเพื่อเปลี่ยนแปลงเรื่องนโยบายให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยจะให้ภาพเป็นกลางของทุกศาสนา และมีนโยบายให้กว้างขึ้นให้เหมาะกับสังคมในปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีนำมาใช้ อาทิ การพัฒนาการศึกษา จะมุ่งเน้นสิ่งใหม่ๆให้มีความทันสมัย โดยสิ่งแรกอยากให้ประชาชนนึกถึงพรรคภราดรภาพในเรื่องความร่วมมือกัน อยากให้เห็นความเป็นพี่น้องกัน เห็นความเท่าเทียมการจับมือ ความสันติทความสงบสุข ซึ่งกันและกัน เพื่อทำในสิ่งที่เป็นความดีงาม
“พันธ์ยศ” ยืนยันพรรคภราดรภาพจะส่งให้ครบทุกเขต ขณะนี้ได้รวบรวมสมาชิกและผู้สมัคร ส.ส.เลือกตั้งไว้แล้ว ส่วนคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส. จะถูกกวางไว้ 2 กลุ่ม 1.กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีวุฒิภาวะเพื่อให้ประชาชนได้เลือก 2.กลุ่มอดีตส.ส. อดีตส.ว. อดีตผู้นำท้องถิ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ จะถูกนำมาเป็นทางเลือกให้ประชาชน โดยพรรคตั้งเป้าไว้ที่ 10 ที่นั่ง โดยเบื้องต้นระบบส.ส.ปาร์ตีลิสต์ น่าจะประสบกความสำเร็จกว่าส.ส.เขต ด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 ทำให้คนหน้าใหม่ๆ พรรคขนาดกลาง หรือพรรคขนาดเล็กมีโอกาส
“นอกจากนี้การให้โอกาสคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามา โดยนำแนวความคิดมาบวกกับคนที่มีประสบการณ์ เชื่อว่าพรรคจะมีโอกาสมากขึ้น โดยพรรคจะไม่มุ่งวิจารย์ทำงาน หรือวิจารย์รัฐบาล เพราะวันนี้การเมืองเปลี่ยน จะต้องผสมกับน้ำเดิมให้มีความสอดคล้องมากขึ้น”พันธ์ยศ ระบุ
พันธ์ยศ บอกอีกว่า การลงพื้นที่ผ่านมามีเสียงตอบรับค่อนข่างดีเพราะความมีสีสัน โดยในช่วงลงพื้นที่ ไม่มีการด่าว่าเรา ถึงแม้ว่าจะไม่มีผลงานชัดเจนแต่ก็ยังไม่มีอะไรเสีย ขณะนี้มีสมาชิกประมาณพันกว่าคนจากการลงพื้นที่มา 2 เดือน โดยมีการจัดกิจกรรมเดินไปด้วยกันมาแล้ว 4-5 ครั้ง อาทิ ย่านหนองแขม ปากคลองตลาด พาหุรัด สำเพ็งเยาวราช
ด้วยความเป็นพรรคขนาดเล็ก มองโอกาสแจ้งเกิดแค่ไหน
-มีความเป็นไปได้สูง จากรัฐธรรมนูญที่อำนวย และมีการปรับเปลี่ยนพรรคหลายอย่าง ซึ่งเป็นพรรคแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่ก่อตั้งตั้งแต่เมื่อปี 2556 ก่อนมีการรัฐประหาร ส่วนนโยบายหาเสียงนั้น อยู่ระหว่างหารือกันจากการรับฟังเสียงประชาชน โดยจะเน้นในด้านเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก เพื่อให้ประชาชนกินดีอยู่ดี โดยพรรคมองคนในทุกระดับให้สอดคล้องกันทั้งหมด โดยเริ่มไปที่ระดับรายได้น้อย อาทิ การช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อให้เขาดำรงชีวิติยู่ได้โดยไม่ลำบากเกินไป และเรื่องการศึกษา รัฐต้องไปดูแลในฐานะสิทธิขั้นพื้นฐาน
เบื้องต้นต้องการหาสมาชิกก่อน โดยจะลงไปดูพื้นที่ยังตลาดต่างๆ เพื่อให้เห็นวิถีชีวิตพื้นฐานของประเทศ ให้รู้ว่าชาวบ้านเป็นอย่างไร ผู้ค้าเป็นอย่างไร ซึ่งการลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ ประชาชนส่วนใหญ่อยากให้มาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การรักษาพยาบาล การแก้ปัญหาคอรัปชั่น
จะดึงการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคอย่างไร
-พรรคให้ความสำคัญกับสมาชิกพรรคเป็นอันดับแรก ที่ผ่านมาได้ให้สมาชิกพรรคเป็นผู้เลือกหัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรรค โดยจัดให้มีมีคูหา มีบัตรเลือกตั้ง เหมือนหย่อนเลือกตั้งจริงๆ ทำให้เห็นว่าถึงแม้เราจะเป็นพรรคเล็กแต่ทำอย่างทุกอย่างเป็นมืออาชีพ
มองการเคลื่อนไหวของพรรคใหญ่อย่างไร
-เป็นเรื่องปกติของบรรยากาศก่อนการเลือกตั้ง ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ แต่พรรคเล็กๆ อาจมีความคล่องตัวมากกว่า ส่วนพรรคเล็กอย่างภราดรภาพยังมีกระแสยังเป็นบวกเสมอ เพราะมีจุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อทะยานเป็นพรรคขนาดกลางได้ในอนาคต ดังนั้นเชื่อว่าขณะนี้ไม่มีพรรคการเมืองไหนได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ถ้าพรรคภราดรภาพมีโอกาสเข้าไปในสภา นอกจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จะผลักดันในเรื่องการศึกษา สุขอนามัย รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นสมบัติของชาติที่ต้องดูแล
โอกาสของพรรคต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
-จะทำให้ดีที่สุด การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนคือผู้ตัดสินว่าอยากได้การเมืองแบบเก่าหรือการเมืองใหม่ คาดหวังว่าประชาชนจะเห็นการเปลี่ยนแปลง อยากให้สิ่งดีๆเกิดขึ้น เพราะพรรคภราดรภาพ รู้สึกดีใจที่การเมืองเปลี่ยนแปลง และเปิดโอกาสให้พรรคน้องใหม่เข้ามาแสดงความสามารถ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาแสดงความสามารถ แต่อยากให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และให้ประชาชนมองถึงอนาคตไปสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม