นักการเมืองร่วมถกเวที “การเมืองไทยกับการสร้างคนไทยศตวรรษที่ 21” “โภคิน” ชี้รายได้สวนทาง”จีดีพี” อัดรัฐบาลบริหาร 5 ปีคนฐานรากไม่มีอำนาจซื้อ
วันที่ 28 พ.ย. ที่อาคารศูนย์การเรียนรู้ชั้น 2 สถานีไทยพีบีเอส คณะทำงานเครือข่ายสื่อมวลชน ในคณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 จัดกำหนดการเวที “การเมืองไทยกับการสร้างคนไทยศตวรรษที่ 21” โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วม อาทิ นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นายกนก วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ โฆษกและทีมยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทย และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย
นายกนก กล่าวว่า ความรู้พื้นฐานจะต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง การคิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ ความร่วมมือและการอยู่ร่วมกับคนอื่น ทักษะการสื่อสารและความเข้าใจระหว่างกัน ซึ่งทักษะปฏิบัติจะสามารถนำความรู้มาทำงานเป็นทีมได้ ส่วนเรื่องจริยธรรมต้องยึดถือไปตลอดชีวิต การสอนจริยธรรมต้องสอนจากการปฏิบัติจริง พรรคประชาธิปัตย์เห็นอัตลักษณ์ของคนไทย การศึกษาการเรียนรู้จะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในโรงเรียน แต่ต้องเกิดขึ้นในชุมชนชุมชนและชีวิตจริง เพื่อเป็นต้นทุนเพื่อประกันความเจริญก้าวหน้าในประเทศ
“คนไทยในศตวรรษที่ 21 จะช่วยแก้ปัญหาพื้นฐานของชาติใน 3 เรื่อง 1.ความยากจน 2.ความไม่รู้ และ3.ความขัดแย้งแตกแยกในหมู่คนไทยด้วยกัน ความเหลื่อมล้ำในสังคมล้วนมาจากรากฐานทั้ง 3 เรื่องนี้ แต่จะทำอย่างไรไม่ให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะเราต้องเลิกทะเลาะกัน การเมืองต้องปลอดจากการต่อสู้ และการแข่งขันของนักการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของทุกพรรคที่จะต้องร่วมแรงร่วมใจทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้น โดยการเมืองต้องนิ่งและการศึกษาจะต้องเดินหน้าให้ได้ “นายกนก กล่าว
นพ.ระวี กล่าวว่า พรรคพลังธรรมใหม่ต้องการให้ประเทศมีประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ ที่มีการค้าเสรีที่เป็นธรรมไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ปัญหาทางการเมือง ที่ประชาชนมีส่วนร่วมกับประชาธิปไตยเพียงแค่ 1 นาทีตอนเข้าคูหาเลือกตั้ง แต่หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนต้องมีสิทธิในการกำกับ ดูแลการทำงานของรัฐบาลได้ ที่สำคัญ คนไทยศตวรรษที่ 21 จะต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ของนักการเมืองต้องถูกทดสอบตอนที่มีอำนาจว่าเมื่อในภาวะที่มีเงินทอน เงินใต้โต๊ะเขาจะรับหรือไม่ แต่การเมืองวันนี้พรรคพลังธรรมใหม่จะก้าวข้ามเผด็จการทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการทางทหารหรือเผด็จการรัฐสภา
ด้านนายโภคิน กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมาคนไทยสับสนกับนโยบายประชานิยม พรรคเพื่อไทยในอดีต ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ได้เสนอลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เพราะมองว่าปัญหาเศรษฐกิจต้องขับเคลื่อนที่ฐานราก ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ แต่รัฐบาลนี้นำมาใส่ทุกอย่าง อยู่มาจะ 5 ปี คนข้างล่างไม่มีอำนาจซื้อ ในเมื่อบอกว่าจีดีพีโตขึ้น แต่สัดส่วนรายได้อยู่ที่คนจำนวนน้อยนิดที่เหมือนกับทั่วโลก ชาวบ้านจึงรู้สึกไม่เสมอภาค ทั้งนี้ การเมืองต้องเป็นประชาธิปไตย ประชาชนต้องมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงและกำหนดประเทศ ไม่ใช่มีส่วนร่วมแค่วันเลือกตั้งเท่านั้น
