จากกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานกลุ่มไทยภักดี ล่ารายชื่อประชาชนคัดค้านแก้กฎหมายมาตรา 112 นั้น
หมอวรงค์ เผยไม่ถึงสองวัน ได้รายชื่อคัดค้านแก้ม.112 เกือบแสนแล้ว!
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า พรรคก้าวไกลเเละตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรายึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราพูดเรื่องนี้ในหลายครั้งในการอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จุดยืนของพรรคเราไม่มีความคิดที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เลยสักนิดเดียว
การที่นายแพทย์วรงค์ใส่ร้ายเเละแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 ต่อพี่น้องประชาชน และพาดพิงต่อพรรคก้าวไกลว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองเเละล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น เรื่องที่เป็นการกล่าวข้อมูลเท็จและเป็นการหมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง ทำให้พี่น้องประชาชนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อพรรคก้าวไกล โดยทางพรรคก้าวไกลจึงเห็นด้วยที่จะฟ้องนายเเพทย์วรงค์ ในมาตรา 326 เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท
สำหรับกรณีที่เจ้าหน้าที่รับแจ้งความจากนายเเพทย์วรงค์ ทั้งที่รู้ว่าเป็นข้อมูลเท็จ พรรคก้าวไกลก็จะพิจารณาเช่นกันว่าจะดำเนินคดีอย่างไรต่อ ในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐประพฤติมิชอบต่อพรรคการเมืองเเละประชาชน อาจเป็นการเอาผิดตามมาตรา 200 หรือ 157 ที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินคดีต่อพี่น้องประชาชนในเหตุที่เกินควรได้
อย่างไรก็ตาม หากนายเเพทย์วรงค์ มีเจตนาดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จริงต้องไม่นำเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มาเป็นเครื่องกำบัง เพื่อให้ตัวเองเข้าสู่เส้นทางการเมือง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีผลดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เลยแม้แต่น้อย หากยังเดินหน้ากระทำการเช่นนี้ต่อไป ประชาชนจะเข้าใจผิดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้อยู่กับประชาธิปไตย ซึ่งไม่เป็นผลดี