โควิด19 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องการลดระยะเวลากักตัวผู้ที่เดินทางมาจากประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 ให้น้อยกว่า 14 วัน ว่า ที่ผ่านมา ประเทศไทยรับมือกับโรคได้มีประสิทธิภาพ เพราะการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน และขณะนี้กำลังหวังว่า วัคซีนจะเป็นคำตอบสุดท้ายในการเอาชนะโรคนี้ ประเด็นคือ ต้องรอจนถึงเมื่อไร เพราะแม้จะมีข่าวเรื่องความคืบหน้า แต่ก็ห่างไกลจากความสำเร็จในระดับที่นำมาใช้จริง เพราะต้องรอทดสอบกับคนจำนวนมาก แล้วดูเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ผลข้างเคียง ซึ่งความสำเร็จ อาจจะไม่เกิดขึ้นในต้นปีหน้า หรืออาจจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
ทว่าระหว่างรอ ประชาชน คนในประเทศ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลายรายถึงขั้นล้มละลาย ก็ต้องหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจ มีข้อเสนอเรื่องการคลายล็อก รับคนต่างชาติเข้ามา และลดระยะเวลากักตัว
ซึ่งมีการเสนอมาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ใช้วิธีตรวจเลือดหาภูมิต้านทาน ที่สามารถตรวจหาเชื้อได้ โดยไม่ต้องอ้างอิงระยะฟักตัว 14 วัน เป็นวิธีที่มีความแม่นยำ 100% จากการทดสอบประมาณ 100 ตัวอย่าง
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข สนใจ แต่ขอให้เพิ่มจำนวนกลุ่มตัวอย่างให้เป็นหลักพันคน และได้ให้กรมควบคุมโรคเข้าไปติดตามเรื่องนี้ด้วย ปัจจุบัน การทดสอบหาผู้ติดเชื้อใน State Quarantine ได้ใช้วิธีเจาะเลือดข้างต้น ในการหาเชื้อ ร่วมกับวิธีมาตรฐาน เท่ากับว่า การลดระยะเวลากัดตัว ยังเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น แต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติจริง ซึ่งการดำเนินการใด ๆ ต้องตั้งอยู่บนความสบายใจของประชาชน ขอให้คนไทยคลายกังวล
ส่วนเรื่องทราเวล บับเบิล หรือการเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัวเลย แต่ต้องปฏิบัติตัว ในกรอบที่กำหนด ทางไทย ก็ยังไม่ได้ตกลงกับประเทศไหนเช่นกัน เพราะมีบางเรื่องที่ยังติดขัด ที่สุดแล้วแม้รัฐบาล ต้องการจะคลายล็อก ไปจนถึงเปิดประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การดำเนินการ จำเป็นต้องตั้งอยู่บนความปลอดภัยของคนไทยเป็นสำคัญ