วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 นาย อัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีทหารอียิปต์ และครอบครัวทูตที่ติดเชื้อโควิด-19 ความว่า
ถ้าถามว่า พลาดมั้ยตอบว่า พลาดถ้าถามว่า น่าผิดหวัง น่าโมโหมั้ย
ตอบว่า ก็น่าผิดหวัง น่าโมโหอยู่แต่ที่ด่ากันด้วยอารมณ์ว่า เศรษฐกิจ สังคม การศึกษาพัง เพื่อแลกกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เป็นศูนย์เพื่อปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้หรือ?
แล้ว…เคยคิดจะพูดคำว่า ยอมให้เศรษฐกิจ สังคม การศึกษาพัง เพื่อแลกกับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เป็นศูนย์ ก็เพื่อรักษาชีวิตของทุกคนในชาติ บ้างหรือไม่
หรือไม่เคยเห็นดีเห็นงามเลยสักครั้ง แล้วพอมีเรื่องพลาดขึ้นมา ก็ด่าซ้ำไม่ได้เข้าข้างนะ ผิดจริงพลาดจริงก็ว่ากันไป แต่อย่าทำตัวน่าขยะแขยง ที่คอยแต่จะหาช่องไว้ด่าอย่างเดียว แต่ไม่เคยชื่นชม
สถานการณ์โควิดในเมืองไทยจากที่เป็นประเทศแรกๆ ที่มีสถานการณ์ที่รุนแรงและน่าเป็นห่วง จนกลายเป็นประเทศแรกๆ ที่ผ่านสถานการณ์โควิดมาได้แบบสวยงาม
แต่ไม่เคยชมว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลและทีมงาน แม้แต่นิดเดียว พร้อมใจกับบอกว่ามันไม่ใช่ฝีมือรัฐบาลและทีมงาน
แต่พอพลาด ก็พร้อมหน้ากันถล่มด่ารัฐบาลและทีมงาน จนนึกว่า มีญาติและเจ้าหน้าที่ทูตและทหารจากต่างประเทศติดเชื้อและแพร่เชื้อไปสู่คนไทยแล้วเป็นร้อยเป็นพันคน
เหมือนรัฐบาลพาทีมงานฟุตบอลไปยิงประตูได้เป็นสิบ เงียบกริบไม่มีเสียงเชียร์
แต่พอโดนตีไข่แตกใบเดียว ด่ากันเหมือนเล่นแพ้ตกรอบแรก
ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราคิดดูซิว่า ถ้าตัวเองเป็นนักบอลทีมรัฐบาลเจอแบบนี้จะรู้สึกยังไง ตอนวิ่งทำประตูเหนื่อยแทบขาดใจไม่คิดจะชื่นชมเป็นกำลังใจ แต่พอหมดแรงการ์ดตกนิดเดียว ด่ากันเหมือนโดนยิงพรุนตกรอบแรก
ตอนทำดีไม่เคยชม รอถล่มเวลาพลาด นิสัยจริงๆ
ไม่ใช่ว่า รัฐบาลทำดีทุกอย่าง มีเรื่องไม่ดีมากมายเหมือนกัน เวลาทำผิดก็ด่ากันไป แต่เวลาทำดีก็ชมกันบ้าง ไม่ใช่จ้องแต่จะด่าอย่างเดียว
ที่ออกมาพูดแบบนี้ไม่ใช่เป็นบอดี้การ์ดให้รัฐบาล แต่ทุกครั้งที่กำลังจะอ้าปากด่ารัฐบาล แต่ต้องเปลี่ยนใจมาด่าความตอแหลของพวกตอแหล แทนทุกที
ย้ำ! ว่า ไม่ได้ตำหนิ คนที่ไม่พอใจ ความผิดพลาดในครั้งนี้ แต่ตำหนิ กลุ่มคนที่เป็นพวกชั่งติ ขาประจำ เท่านั้น