เปิดผลประชุม ก.ตร. วาระคำสั่งเด้ง “บิ๊กโจ๊ก” มติชี้ขาด! 12 ต่อ 0 “เห็นชอบ” ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (26 มิ.ย. 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธาน ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยมีวาระพิจารณาที่สำคัญคือ รายงานของอนุกรรมการ ก.ตร. วินัย ปมคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ออกจากราชการไว้ก่อน

ซึ่งจะเป็นการชี้ขาดว่า คำสั่งออกจากราชการไว้ก่อนที่ลงนามโดย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในขณะที่เป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร. สามารถมีผลตามกฎหมาย และทำให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หลุดจากการเป็นตำรวจหรือไม่
รายชื่อคณะกรรมการตำราจ (ก.ตร.)
1.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
2.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
3.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.
4.พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร.
5.พล.ต.อ. ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.
6.พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.
7.พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข (รักษาราชการ รอง ผบ.ตร.)

8.พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
9.พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
10.พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
11.ฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
12.พล.ต.ท.ประทิต สันติประภพ ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
13.อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ ก.พ.ร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
14.ปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ เลขาธิการ ก.พ. ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
15.ศุภชัย ยาวะประภาษ ผู้ทรงคุณวุฒิ ก.ตร
**มีคณะกรรมการ ลาประชุมไป 2 ท่าน

ล่าสุด พล.ต.ท. อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. แถลงข่าวชี้แจงผลการพิจารณาการเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกจากราชการไว้ก่อน โดยมติที่ประชุมเสียงส่วนมาก 12:0 เห็นชอบในคำสั่งที่เซ็นให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งสอดคล้องกับอนุกรรมการวินัยก่อนหน้านี้ ที่มีความเห็นว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เซ็นให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย
ในมติของ ก.ตร. เรื่อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ใช่เป็นการกดดันการทำงานของ ก.พ.ค.ตร. ที่จะมีการพิจารณาในภายหลังจากนี้ ซึ่งการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เป็นอิสระ โดยการพิจารณาของ ก.ตร. ไม่ได้มีอำนาจชี้ขาดในกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเพียงการพิจารณาในส่วนของบริหารงานส่วนบุคคล แต่ในส่วนของอำนาจการชี้ขาดเป็นของ ก.พ.ค.ตร. ซึ่งจะมีการพิจารณา 120 วัน และขยายเพิ่มได้ 2 รอบ (รอบละ 60 วัน) แต่เชื่อว่าจะสามารถพิจารณาเสร็จในกรอบแรก
‘บิ๊กต่อ’ สามารถนำชื่อ ‘บิ๊กโจ๊ก’ ขึ้นทูลเเกล้าฯ ได้หรือไม่?
ส่วนมติของ ก.ตร. จะสามารถให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา ไม่ขอตอบ เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจของ ก.ตร.
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ 1 ในคณะกรรมการ ก.ตร. ไม่ได้มาร่วมลงมติในครั้งนี้ เนื่องจากอาจทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลาง ซึ่งทาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้เสนอในที่ประชุมว่าของดเข้าร่วมพิจารณา เนื่องจากอาจเกิดความไม่เป็นธรรมซึ่งทางมติที่ประชุมก็เห็นชอบที่จะไม่ให้เข้าร่วม

และเมื่อคำสั่งตาม ก.ตร.ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกราชการไว้ก่อนยังไม่สมบูรณ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะสามารถกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งในฐานะรองผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติได้อยู่หรือไม่นั้น พล.ต.ท.อนุชา ระบุว่า ในส่วนนี้เกินอำนาจหน้าที่ที่จะตอบได้ และนอกเหนืออำนาจตัวเองที่จะพิจารณา
ส่วนประเด็นที่คณะกรรมการบางคนถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไล่ฟ้องจะส่งผลให้ไม่สามารถเข้าพิจารณาได้ครบองค์ประชุมหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าไม่เป็นปัญหา และผู้ที่ถูกฟ้องสามารถเสนอเหตุผลในที่ประชุม ก.ตร. ว่าอาจจะทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลางซึ่งทางคณะกรรมการจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ออกจากการพิจารณาได้หรือไม่