บอส อยู่วิทยา พรรคก้าวไกล ชี้บิดข้อเท็จจริง บิดข้อกฎหมาย ล่าสุด บิดหลักฟิสิกส์!!! หลังจากสารวัตรเพียว ส.ส.ก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กแหกวิธีคำนวณของ ดร.สายประสิทธ์ ทำบอสอยู่วิทยารอดคดีขับรถชนดาบตำรวจตาย โดยข้อความระบุดังนี้

ถือว่าสิ้นสุด! ตร.แถลงไม่แย้งคดี บอส อยู่วิทยา แก้ไขไม่ได้

เหตุเกิดในช่วงเช้ามืดวันหนึ่งของเดือนกันยายนปี 2555 โดยบอส วรยุทธ อยู่วิทยา สมาชิกครอบครัวที่เป็นหนึ่งในครอบครัวที่รวยที่สุดในประเทศไทย ขับรถหรูพุ่งชนท้ายดาบตำรวจ สน.ทองหล่อนายหนึ่ง และลากร่างไปไกลอีกกว่า 200 เมตร จนทำให้ตำรวจนายนั้นถึงแก่ความตาย

หลังจากนั้นนายบอส อยู่วิทยา ก็ขับรถหลับนี้กลับไปที่บ้านของตนเอง ทางการตำรวจตามไปจนเจอ นายบอสไม่ยอมออกมา แต่กลับส่งพ่อบ้านมารับผิดแทน ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วทางตำรวจก็เห็นว่าพ่อบ้านไม่ใช่ผู้กระทำผิด ถึงขั้นต้องนำตำรวจ 200 นายไปล้อมบ้านเอาไว้ นายบอสจึงยอมออกมาจากบ้าน

ผลการตรวจสอบจากห้องแล็บพบว่านายบอสมีทั้งแอลกอฮอลและโคเคนในร่างกาย ซึ่งความผิดอาญาในข้อหานี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายข้อหาที่พนักงานสอบสวนและอัยการไม่สามารถเอาผิดกับนายบอสได้ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา บางข้อหาพนักงานสอบสวนก็ไม่ชงเรื่องไปให้อัยการส่งฟ้องศาลต่อไป จนคดีหมดอายุความไปดื้อๆ

แต่ที่น่าสนใจคือการขับขี่รถของนายบอสที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดหรือไม่?
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ลงพื้นที่ดูหลักฐานหน้างานทั้งหมดตั้งแต่ไม่นานหลังเกิดเหตุก็ออกรายงานและสรุปได้ว่านายบอสใช้ความเร็วในการขับขี่ประมาณ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกฎหนดไปหลายขุม

ทางผู้ที่สนใจกฎหมายก็รู้กันดีว่าตรงนี้เป็นจุดตายที่ทำให้นายบอสไม่สามารถหลีกหนีความผิดได้ เพราะแม้นายบอสจะอ้างว่าดาบตำรวจนายนั้นเปลี่ยนเลนกระทันหันซึ่งทำให้บอสเบรกไม่ทันจนเกิดอุบัติเหตุขับชนท้าย แต่เมื่อใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดเช่นนี้ จะอ้างไม่ได้ว่าคนอื่นขับปาดหน้า เพราะจุดประสงค์ของการจำกัดความเร็วตามกฎหมายนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีการปาดหน้า หรือการเปลี่ยนเลนแล้วแต่คันที่ขับตามมาเบรกไม่ทันจนเป็นอุบัติเหตุนั่นเอง

ประเด็นความเร็วที่ใช้นั้นจึงเป็นจุดหลักที่ฝั่งนายบอสจะต้องแก้ไขให้ได้
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปหลายปี กรรมาธิการกฎหมายฯ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.(ที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร และมีคนในเครือข่าย พล.อ.ประวิตรนั่งอยู่เป็นจำนวนมาก) ได้เริ่มต้นกระบวนการบินผันข้อเท็จจริงครั้งใหม่ โดยรับข้อร้องเรียนจากทนายของนายบอส และมีการเชิญ รศ.ดร.สายประสิทธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยยานยนตร์ มาตำรวณความเร็วใหม่ (พร้อมทั้งมีพยานใหม่อีก 2 ปาก ให้การสนับสนุนว่านายบอสขับรถไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและดาบตำรวจเปลี่ยนเลนกระทันหัน)

คณะอัยการย้ำคดี บอส อยู่วิทยา เร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

จากรายงานแรกของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ได้ความเร็วประมาณ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาเหลือ 76 กิโลเมตรตามการคำนวณของ ดร.สายประสิทธิ์ได้อย่างไร? เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาได้ไปออกรายการตอบโจทย์ ช่อง Thai PBS

นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้สารวัตรเพียว อดีตตำรวจพิสูจน์หลักฐานในคดีนี้และต่อมาเป็น ส.ส. พรรคก้าวไกล เมื่อดูคลิปการอธิบายแล้วก็ออกมาโต้แย้งวิธีคำนวณของ ดร.สายประสิทธิ์ ว่าใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง และตั้งคำถามดังๆ กลับไปว่า “รถบ้าอะไรเคลื่อนที่ในแนวทะแยงมุม?” (อ่านข้อโต้แย้งขอสารวัตรเพียวแบบละเอียดได้ที่หน้าแฟนเพจเฟซบุ๊กของเขา)

และที่น่าตั้งคำถามมากกว่านั้นก็คือ อัยการและพนักงานสอบสวนเชื่อการคำนวณเช่นนี้ บวกกับพยานฝ่ายบอสอีก 2 คนจนไม่สั่งฟ้องเอาผิดได้อย่างไร??? หรืออัยการและพนักงานสอบสวนมีเหตุผลเบื้องหลังการคิดและตัดสินอย่างไรจึงได้ออกมาแบบนี้???

เท่าที่เราทราบตอนนี้ มีทีมพิสูจน์หลักฐานอีกทีมนอกจากของสารวัตรเพียว และผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์รวมแล้วทั้งหมด 3 รายที่มีที่มาแตกต่างกัน และคำนวณโดยใช้วิธีการคล้ายกันแต่ยึดวัตถุอ้างอิงต่างกัน แต่ได้ตัวเลขสรุปความเร็วมาไม่ต่างกันมากคือประมาณ 170 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมงเช่นกัน

อดีตผู้อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา แจงยิบ 4 ข้อสังเกตคดี บอส อยู่วิทยา

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ศึกษาฟิสิกส์ก็คือ สุดท้ายแล้วสูตรและวิธีคำนวณของใครถูกต้องแม่นยำมากกว่า? ก็คงต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนถกเถียงกันต่อไป

แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ นอกจากพยายามบิดข้อเท็จจริงในคดีนี้อย่างเต็มที่แล้ว ยังมีการพยายามบิดข้อกฎหมายหาทางรอดให้ได้ แต่ที่หนักใจสังคมที่สุดครั้งใหม่คงจะเป็นความพยายามในการบิดวิธีคำนวณทางฟิสิกส์เพื่อทำให้ความเร็วของบอสไม่เกินที่กฎหมายกฎหนด ขัดกับสายตาและความรู้สึกคนทั้งประเทศยังไม่พอ ยังขัดขัดกับหลักการองค์ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์อีกหลายรายด้วย!

เรื่องนี้ต้องไม่จบง่ายๆ เพราะมันสะเทือนความรับรู้ของประชาชนทั่วไปและตั้งคำถามต่อกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นโปรดติดตามกันต่อไป!

#ก้าวไกล #บอสอยู่วิทยา #รถบ้าอะไรเคลื่อนที่ในแนวทะแยงมุม #ภาวะVIPซ้ำซ้อน

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสิน! แม่ของนักร้องสาว “คูฮารา” ไม่ได้รับมรดกสักแดงเดียว

แม่ของนักร้องสาว “คูฮารา” แพ้คดีความเรื่องมรดก และศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินให้สมาชิกในครอบครัวที่ดูแลเธอได้รับมรดกแทน

“Code Kunst” ตัดสินใจแยกทางกับ AOMG หลังอยู่มานานถึง 6 ปี

นักดนตรี/โปรดิวเซอร์ “Code Kunst” ชื่อดัง ได้ตัดสินใจแยกทางกับค่ายเพลง AOMG หลังจากอยู่มานานถึง 6 ปี ทำเอาใจหายไปกันทั้งทามไลน์

ลายพรางสุดโหด! จับสิบโท-ทหารว้าแดง ฆ่าทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ ปมฉุนแซวสาว

โหดเหี้ยม ตร.รวบ สิบโท-ทหารว้าแดง ฆ่าทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ ก่อนหิ้วป่าละเมาะ ใกล้ดอยสุเทพ เตรียมเร่งล่าผู้ต้องหาอีก 2 คน

อดีตผู้บริหารโพสต์โต้ข่าว หลัง เมากร่างถีบหน้าตร. ล่าสุดโดน 3 ข้อหาหนัก

ไม่ยอมเสียเปรียบ! อดีตผู้บริหารหญิงบ.ดังระดับโลก เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก หลังตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก เจ้าตัวลั่น ไม่ขอเป็นเครื่องมือให้ใคร

“เจนนี่ BLACKPINK” ร่วมมือกับ Gentle Monster เปิดตัวคอลเลกชัน ‘Jentle Salon’

“เจนนี่ BLACKPINK” ร่วมมือกับ Gentle Monster เปิดตัวคอลเลกชั่น ‘Jentle Salon’ ทำเอาแฟนๆ ต่างจับจองซื้อตามกันทั่วโลก

โอ้โห! ดาวยั่วตัวแม่ นุ่งชั้นในซีทรู เปิดอกล้นกระแทกตา โชว์เอวคอดทำใจสั่น

โอ้โหของจริง! ดาวยั่วตัวแม่ นุ่งชุดชั้นในซีทรูบาง เปิดอกล้นกระแทกตา โชว์หุ่นสับ อวดเอวคอดทำใจสั่น งานนี้บอกเลยแฟนๆ แห่ไลก์เพียบ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า