แก้หนี้ทั้งระบบ นโยบายรัฐบาล เศรษฐา นายกรัฐมนตรี จ่อแถลงข่าวใหญ่สิ้นเดือนนี้ (พ.ย.) เตรียมเปิดมาตรการแก้หนี้ ทั้ง กยศ. หนี้สินครู และ SMS
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มีรายงานข่าวดีสำหรับลูกหนี้ รัฐบาลเตรียมออกโครงการ “แก้หนี้ทั้งระบบ” โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ ที่นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ กล่าวถึงที่ประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยเห็นชอบแนวทางแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งจะคำนวณภาระหนี้ของลูกหนี้ที่ยังชำระไม่หมดให้กลับไปคำนวณเงินต้น และลูกหนี้ที่ชำระมากกว่า 150% สามารถหยุดจ่ายหนี้ได้ พร้อมได้พูดถึงเรื่อง การแก้หนี้ทั้งระบบ ที่ไม่ใช้แค่ หนี้ กยศ.
นายเศรษฐา เปิดเผยว่า โครงการแก้ไขหนี้ กยศ. เป็นเรื่องนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินโดยรวมของรัฐบาลนี้ ซึ่งจะรวมทั้ง หนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้ครู หนี้นอกระบบ พร้อมด้วย เอสเอ็มอี (SME) ที่ติด มาตรา 21 ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่ตนไม่อยากพูด คาดว่าในช่วงปลายเดือนนี้ หรือประมาณอีก 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ น่าจะมีการแถลงข่าวใหญ่ ถึงมาตรการแก้ไขหนี้ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่หนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา อย่างเดียว แต่จะรวมทุกภาคส่วนเท่าที่จะสามารถทำได้
ความคืบหน้า หนี้ กยศ.
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จะไปจัดทำระบบการคำนวณให้เสร็จสิ้นภายใน 5 เดือนนับจากนี้ แต่ที่ประชุมมองว่าเป็นเวลาที่นานเกินไป จึงขอให้มีการทำระบบขึ้นมาแบบง่าย เพื่อเร่งคำนวณยอดหนี้ให้ลูกหนี้กลุ่มที่มีความเดือดร้อนและมีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน 2 กลุ่ม ดังนี้
1. ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องร้องและอยู่ในชั้นของกรมบังคับคดี จำนวน 46,000 คน จะเริ่มทำให้เสร็จในเดือน (ธ.ค. 66) นี้
2. ลูกหนี้ที่จะหมดอายุความในเดือน (มี.ค. 67) จำนวน 40,000 คน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ.ใหม่
หากคำนวณได้เร็วจนทำเสร็จทั้ง 2 กลุ่มแล้วแต่ระบบยังไม่พร้อม เจ้าหน้าที่จะเร่งคำนวณลูกหนี้ กยศ. อื่นๆอีกเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นข่าวดีและเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับลูกหนี้ กยศ. ทั้งหมด
ทั้งนี้ สำหรับ หนี้สินครู หนี้นอกระบบ ยังถือว่าเป็นอีกปัญญาระดับต้นๆ ที่ทำให้ข้าราชการครู และประชาชนจำนวนมาก ได้รับความเดือนร้อน อีกทั้งปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้ปัญหามีความสะสม ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งหากการแก้หนี้ทั้งระบบ ที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าว รัฐบาลสามารถทำได้จริง คาดว่าจะเป็นผลดี และสามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ อย่างไรก็ตามต้องรอจับตาดูว่า “มาตรการแก้ไขหนี้ทั้งหมด” ที่จะมีการแถลงเร็วๆนี้นั้น จะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง