สปสช. เผยผลตรวจสอบทุจริตงบ บัตรทอง พื้นที่กทม. รอบ 2 เบื้องต้นพบความเสียหาย 34 ล้านบาท
นิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเป็นเท็จ สปสช. กล่าวถึงความคืบหน้าการเร่งดำเนินการเอาผิดกับหน่วยบริการทุจริตเงินบัตรทอง ว่าจากที่คณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ ได้ตรวจสอบเอกสารและหลักฐานการเบิกจ่ายค่าบริการเท็จ พบว่าคลินิกชุมชนอบอุ่น และแล็บที่ให้บริการตรวจทางปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ มีพฤติกรรม สมรู้ร่วมคิดกัน มีความจงใจทั้งปลอมข้อมูลผู้ป่วย จากไม่เคยรับการตรวจมาก่อน หรือ บิดเบือนข้อมูล ทั้งน้ำหนักส่วนสูง ถือว่าเป็นแล็บผี
อีกทั้งยังมีความผิดร้ายแรงเข้าข่ายการทำลายระบบสุขภาพ ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบสุขภาพ ทำลายความน่าเชื่อถือทางวิชาชีพโดยพบว่า มีประชาชนถูกสวมสิทธิหรือปลอมข้อมูลทางสุขภาพกว่า 200,000 คน สูญเสียโอกาสในการเข้าถึงบริการที่จำเป็น เช่น การถูกแอบอ้าง ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เมื่อระบบจะขึ้นว่ามีการรักษาแล้ว ก็เสียโอกาสไปทันที
นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า น กทม. มีคลินิกชุมชนอบอุ่นประมาณ 180 แห่ง และคลินิกทันตกรรมประมาณ 100 แห่ง นอกจากคลินิกเอกชน 18 แห่ง และคลินิกทันตกรรม 2 แห่งที่ดำเนินคดีไปแล้ว ขณะนี้ สปสช.ได้ระดมทีมผู้ตรวจสอบทั้งจากส่วนกลางและพื้นที่จากต่างจังหวัดเข้ามา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ สปสช. รวมประมาณ 300 คน เร่งตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายบริการคัดกรองโรคทั้งหมดของหน่วยบริการ 66 แห่งในพื้นที่ กทม. โดย สปสช.ได้อายัดเอกสารจากคลินิกทั้ง 63 แห่ง เมื่อวันที่ 20-24 กรกฎาคม 2563 ได้เอกสารมากกว่า 5 แสนฉบับ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม กำหนดระยะเวลาตรวจไว้ถึงวันที่ 14 สิงหาคม นี้ ขณะนี้ตรวจไปแล้วเกือบ 160,000 ฉบับ พบเอกสารไม่น่าเชื่อถือประมาณ 80,000 ฉบับ ซึ่งกรณีที่พบว่าเป็นการตกแต่งข้อมูลเป็นเท็จ สปสช.ได้รวบรวมเพื่อส่งหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับทางกองบังคับการปราบปรามและดีเอสไอแล้ว