อภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวานนั้น ฝ่ายค้านทำตัวเหมือน ผู้สื่อข่าวโดยการอ่านข่าวซ้ำ ไม่มีเนื้อหาและไม่ไปแสวงหาเรื่องการทุจริตของรัฐมนตรี แต่ใช้แค่ข่าวสารตามหน้าสื่อซึ่งบางคนก็ไม่ต้องทำอะไรเลยเพียงแค่นำคลิปของสื่อมานำเสนอ ซึ่งบางครั้งไม่มีข้อเท็จจริง ทำให้รู้สึกผิดหวัง ทั้งนี้ยังมีผู้อภิปรายบางคน อภิปรายไปด้วยและยกหางตัวเองตลอดว่าตัวเองเป็นคนดีและคนเก่ง พูดนานเกือบ 2 ชั่วโมง ทำให้เกิดการประท้วงกัน รวมทั้งคนพูดยังมีอีคิวต่ำ และมีกำพรืดต่ำ สบถในสภา ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษานายชวน หลีก ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าปล่อยให้คนเหล่านี้มาสบถในที่ประชุมสภาฯ ได้อย่างไร
โดยประชาชนทั่วประเทศ เฝ้าดูการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติว่า ฝ่ายบริหารจะมีการทุจริตประพฤจิมิชอบอย่างไร แต่กลับไม่มี มีเพียงการหยิบข่าวมาพูดตลอด จึงเป็นเรื่องน่าผิดหวัง ผมขอโทษแทน ส.ส. ทั้งสภาฯ ที่ทำให้รู้สึกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เปลืองข้าวเปลืองน้ำ และเปลืองภาษีในการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัตติ ถ้าผมเป็นฝ่ายตรวจสอบ จะทำได้ดีกว่านี้ และคิดว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ไม่ควรใช้เวลายาวนาน 4-5 วัน
ตนจึงจะขอปรึกษากับนายชวน ว่าวันนี้ถ้าลงมติได้ก็ลงไปเลย เพราะไม่มีข้อมูลใหม่ และไม่มีหลักฐานการทุจริตอน่างชัดเจน บางคนก็ใช้ไม่ได้ อายุก็เยอะ อีคิวก็ต่ำ ขอให้ประชาชนช่วยดู และบางคนนำเรื่องขององค์กรที่ตัวเองเคยอยู่มาพูดในทางไม่ดี ทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ทำลายองค์กรของตนเอง ทั้งที่เคยไต่เต้ามาถึงระดับผู้บริหาร อยากถามว่า ตัวเองเคยทำแบบนั้นมาก่อนหรือไม่ ในการซื้อขายตำแหน่งหน้าที่ ไม่มีผู้บริหารดี ๆ คนไหนที่ออกจากออกองค์กรนั้นแล้ว กลับมาพูดทำลายองค์กรของตนเอง ยืนยันว่า ตนไม่ลุกขึ้นยืนประท้วงแบบซี้ซั้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการฟ้องร้องกันอีกหลายคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสิระ ได้นำเหรียญทองรูปหน้าพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ที่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ออกมาโชว์สื่อมวลชน พร้อมกับระบุว่า ตนนับถือและคิดว่าสามารถปกป้องคุ้มครองได้ จึงนำมาห้อยคอเพื่อความอุ่นใจ