พรรค อนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก 7 เดือนยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่ความฝันยังไม่สูญสลาย โดยระบุว่า “วันนี้เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว (21 กุมภาพันธ์ 2563) ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบ “พรรคอนาคตใหม่” โดยคน 7 คนใส่ชุดครุยขึ้นไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ กระทำการในนามของศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติเสียงข้างมากให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ได้แก่ นุรักษ์ มาประณีต, จรัญ ภักดีธนากุล, นครินทร์ เมฆไตรรัตน์, บุญส่ง กุลบุปผา, ปัญญา อุดชาชน, วรวิทย์ กังศศิเทียม, และอุดมศักดิ์ นิติมนตรี
สุทธวรรณ ทวงถาม! กรมศิลปากร เร่งตามหา หมุดคณะราษฎร
“ความฝัน” ที่จะได้เห็นอนาคตที่ดีกว่าซึ่งเราวาดไว้ถูกทำลายลงอย่างไม่เป็นท่า ไม่ว่าจะเป็น…
ในด้านการเมือง ซึ่งอยากเห็นประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ มีกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับ มีการถ่วงดุลอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติและตุลาการ อยากเห็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน มีหลักนิติรัฐนิติธรรม มีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมืองและอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
อยากเห็นการยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจที่มีอยู่แต่เดิมให้ท้องถิ่นอีกครั้ง ให้ท้องถิ่นสามารถเลือกผู้บริหารได้ผ่านการเลือกตั้ง ผู้บริหารมีอำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะในท้องถิ่นของตัวเอง มีรายได้ มีความเป็นอิสระในการบริหารงบประมาณของตนเอง รวมถึงมีบุคลากร มีความอิสระในการบริหารบุคลากรของตนเอง ด้วยเราเชื่อว่า ไม่มีทางที่รัฐราชการส่วนกลางจะรู้ปัญหาและมีแนวทางแก้ปัญหาได้ดีไปกว่าคนท้องถิ่น
อยากเห็นกองทัพที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน มีความทันสมัย การใช้งบประมาณอย่างเปิดเผย มีอุตสาหกรรมป้องกันประเทศซึ่งเป็นที่เชิดหน้าชูตา และที่สำคัญคือยกเลิกระบบที่ล้าหลังอย่างการการเกณฑ์ทหาร เปลียนมาใช้ระบบความสมัครใจ โดยมีสวัสดิการกำลังพลที่ดี เป็นทหารที่มีเกียรติยศศักดิ์ศรี
รื้อยังไงก็รื้อไม่หมด! ทราย เจริญปุระ เตรียมแจก หมุดคณะราษฎร
ในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ ซึ่งอยากเห็นเศรษฐกิจเปิดกว้างและพร้อมรับการแข่งขัน ทรัพยากรถูกใช้เพื่อดูแลคนส่วนใหญ่ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่ผูกขาดกับคนไม่กี่ตระกูล อยากเห็นการลงทุนในการคมนาคมสาธารณะที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึงเสรีภาพในการเดินทางได้ด้วยต้นทุนต่ำมีบริการที่ดี
อยากเห็นการเอางบประมาณของรัฐมาสร้างรัฐสวัสดิการที่จะทำใหคนหนุ่มสาวมีทางเลือกในชีวิต สามารถเลือกเดินตามความฝันของตัวเอง และถ้าล้มเหลวหรือพ่ายแพ้ยังมีสวัสดิการทางสังคมรองรับ ทำให้คนเกษียณอายุใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า ไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นภาระลูกหลาน
อยากเห็นการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่จะนำมาสู่การจ้างงาน สร้างด้วยเทคโนโลยีของคนไทยเอง มีสินค้าแบรนด์คนไทยเอง ที่จะนำประเทศทะยานไปข้างหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ
ในด้านสังคมวัฒนธรรม ซึ่งอยากเห็นการสร้างวัฒนธรรมที่โอบรับความหลากหลาย ไม่ว่าด้านด้านเพศวิถี วัย วุฒิการศึกษา ชาติพันธุ์ ศาสนา ฯลฯ ตระหนักได้ว่าคนทุกคนมีความแตกต่างกัน มีความสวยงามและศักยภาพในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาประเทศในแบบฉบับของตัวเอง
อยากเห็นการศึกษาที่ตั้งอยู่บนความเชื่อใจระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องมากกว่ากฎระเบียบและการทำโทษ การศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ได้ด้วยตัวเองในเรื่องที่ตัวเองสนใจมากกว่าการท่องจำโดยไม่เปิดให้ตั้งคำถาม การศึกษาที่เสริมสร้างคนให้มีความเชื่อมั่นในตัวเอง สามารถผลักดันสิ่งต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จได้มากกว่าการศึกษาที่ตั้งอยู่บนระบบอาวุโส ความเป็นเจ้ายศเจ้าอย่างและระบบการลงโทษด้วยกฎระเบียบ
อยากเห็นการพัฒนาประเทศโดยตระหนักว่าทรัพยากรธรรมชาติมีจำกัด ไม่ดึงอนาคตลูกหลานมาใช้ ทุกคนตระหนักว่าเรามีหน้าที่ส่งต่อโลกที่ดี สวยงาม และยั่งยืนให้คนรุ่นต่อไป การพัฒนาตั้งอยู่บนข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติอย่างสมดุล สวนสาธารณะที่เพียงพอ ป่าไม้ที่สมบูรณ์ และอากาศที่ดีให้ทุกคนหายใจ
ในด้านการต่างประเทศ ซึ่งอยากเห็นประเทศไทยยืนอย่างสง่างามอยู่ในอาเซียน เป็นต้นแบบด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม มีส่วนในการแก้ปัญหาของมนุษยชาติ ที่อาศัยการร่วมมือกันระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเรื่องผู้อพยพ เรื่องวิกฤติแม่น้ำโขง เรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เราเชื่อว่าประเทศไทยเป็นผู้นำในอาเซียนได้ มีบทบาทอย่างแข็งขันในการแก้ปัญหาของโลก ยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ
“พรรคอนาคตใหม่” เกิดมาด้วยความฝันแบบนี้
เราต้องการที่จะเดินบนเส้นทางของระบบรัฐสภาให้ถึงที่สุด เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่า ระบบรัฐสภานั้นสามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ เป็นเส้นทางที่เปลี่ยนประเทศไทยให้กลับมาเป็นประชาธิปไตย เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปใช้ “อำนาจนอกระบบ” เข้ามาเกี่ยวข้อง
และเพราะความฝันที่อยากเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นหรือไม่ ทำให้ถูกกล่าวหาว่า “ชังชาติ” ? และเพราะการพยายามเปลี่ยนแปลงในระบบแบบนี้หรือไม่ ทำให้สุดท้าย “พรรคอนาคตใหม่” ต้องถูกยุบ ?
รื้อได้รื้อไป! หมุดคณะราษฎร พลาสติก โผล่แทน หมุดคณะราษฎรที่ถูกรื้อถอนไป
ตลอด 1-2 เดือนที่ผ่านมา ในการรวมตัวครั้งใหม่ของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนทั่วไป จำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่ว่าจะจัดโดยกลุ่มไหนหรือสถาบันใด ก็ล้วนแต่จะมีคนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ
เราได้เห็น “ความฝัน” ของพวกเขา และเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องให้มี การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่สถาบันกษัตริย์ดำรงอยู่อย่าง สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยแบบนานาอารยะประเทศอย่างแท้จริง
เป็น “ความฝัน” ที่เรามีเช่นเดียวกัน”