หมอเก่ง นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายในญัตติด่วนเรื่อง “ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบหากรัฐบาลจะอนุมัติลงนามในข้อตกลง CPTPP หรือความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” โดยระบุว่า การเข้าเป็นสมาชิก CPTPP จะเป็นความเสี่ยงของประเทศไทยที่จะถูกนักลงทุนต่างชาติ สามารถฟ้องอนุญาโตตุลาการจากการใช้สิทธิ CL หรือการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาได้ง่ายขึ้น ซึ่งในประเด็น CL ยา จะเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางยาของประเทศ และทำให้ยาสามัญที่จะขึ้นทะเบียนตำรับยา ยากขึ้น รวมไปถึงการเข้าถึงยาราคาถูกของประชาชนมีความเสี่ยงที่จะล่าช้าออกไป เพื่อแลกการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะโตขึ้นเพียง 0.12 %
นพ.วาโย ปัจจุบันประเทศไทยทำ CL ยา ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงที่ชื่อว่า TRIPS (Trade-Related Aspects of Intellectual Property Rights) ซึ่งคือข้อตกลงด้านการค้าที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา โดยเป็นข้อตกลงหนึ่งที่เหล่าประเทศภาคีสมาชิกขององค์การค้าโลกจำเป็นต้องเข้าร่วม
ในข้อตกลง TRIPS ระบุไว้ในมาตรา 31 ว่ารัฐสมาชิกสามารถทำ CL ยา ได้ภายใต้ 3 ภาวะ บวกกับ 1 เงื่อนไข คือ 1.ภาวะฉุกเฉินระดับชาติ 2.สถานการณ์อื่นที่มีความเร่งด่วนอย่างยิ่ง 3.การใช้เพื่อประโยชน์อื่นๆทางสาธารณะแต่ไม่ใช่ใช้ในเชิงพาณิชย์ แต่เงื่อนไขคือเมื่อทำ CL ยาแล้ว จำเป็นต้องชดเชยให้กับบริษัทของผู้ทรงสิทธิอย่างเหมาะสม หรือก็คือรัฐต้องจ่ายให้บริษัทอย่างเพียงพอ
แต่หากประเทศไทยเข่าร่วม CPTPP ซึ่งมีข้อกำหนดไว้ในบทที่ 18.6.1 (a) ว่ารัฐสมาชิกสามารถทำ CL ยาได้ในกรณีที่เป็นภาวะฉุกเฉินระดับชาติ และมีสถานการณ์เร่งด่วนอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่หายไปคือ การใช้เพื่อประโยชน์อื่นๆทางสาธารณะแต่ไม่ใช่ใช้ในเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ เหตุผลที่ประเทศไทยมักทำ CL ยา คือใช้เหตุผลนี้แทบทั้งสิ้น เช่น กรณียาโรคมะเร็ง ซึ่งไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินระดับชาติ ไม่ใช่เหตุจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่ง ไม่ใช่โรคระบาด แต่เป็นการป้องกันสาธารณประโยชน์ด้านสาธารณสุข ที่จะสามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงยาได้ง่ายขึ้นและราคาถูก ซึ่งสำหรับยาโรคมะเร็งแต่เดิมเม็ดละ 250 บาท เมื่อรัฐทำ CL ยามะเร็งทำให้ยาตัวนี้เหลือเพียงเม็ดละ 6 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรเลวร้ายทั้ง 100 % และดีไปหมดทั้ง 100 % มักต้องมีประโยชน์และโทษ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักในการเลือก โดยเฉพาะในการเข้าเป็นสมาชิก CPTPP ประเด็นที่ได้ยกมาข้างต้นเป็นเพียงเรื่องย่อยเล็กๆเท่านั้น ที่ต้องชั่งน้ำหนักระหว่าง ความมั่นคงทางยา และการที่ GDP จะโตขึ้น 0.12% ว่าคุ้มค่าหรือไม่ การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญที่มีตัวแทนจากฝ่ายต่างๆ ตัวแทนประชาชน ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ มาร่วมกันตรวจสอบและศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นเป็นอย่างยิ่ง