พรรคก้าวไกล ได้ออกแถลงการณ์ขอบคุณและแสดงความยินดีกับความสำเร็จของประชาชน ที่ร่วมด้วยช่วยกันผลักดันให้ “เลิกอุ้ม” การบินไทย จนรัฐบาลต้อง “กลับลำ” ยอมยกเลิกแผนฟื้นฟูแบบลอยๆ ซึ่งเหมือนการเทเงินทิ้งโดยประชาชนแทบไม่ได้ประโยชน์อะไร (ค้ำประกันเงินกู้ 5.4 หมื่นล้านบาท ตามด้วยการเพิ่มทุนอีก 8.3 หมื่นล้านบาท)
พรรคก้าวไกลระบุว่า กรณีการบินไทย นับเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า “เมื่อปวงประชาร่วมกันส่งเสียงจะมีพลังมากพอ” ในการกำหนดทิศทางให้รัฐบาลตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องได้ จากท่าทีที่รัฐบาลแสดงออกหลายอย่างก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมที่จะซื้อเครื่องบินฝูงใหม่เมื่อปีก่อน หรือความพยายามที่จะใช้เงินภาษีไปอุ้มการบินไทยต่อไปทั้ง ๆ ที่ขาดทุนแบบมองไม่เห็นอนาคต รัฐบาลคงเห็นแล้วว่า การพยายามทำในสิ่งที่ฝืนกับความรู้สึกของประชาชนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ตลอดไป โดยเฉพาะในยุคประชาธิปไตยที่ประชาชนมีเสรีภาพในการเรียกร้องความถูกต้องและเป็นธรรม
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกลขอชื่นชมประชาชนทุกคนที่ช่วยกันออกมาส่งเสียงและขอเป็นกำลังใจให้พนักงานการบินไทยทุกคน ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทที่ผ่านมารวมถึงอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่นำพาชื่อเสียงมาให้ประเทศของเรา เราเชื่อว่าการบินไทยจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้และจะประสบความสำเร็จสำหรับอนาคตที่กำลังเริ่มต้นขึ้นนับจากนี้
สัญญาณแห่งอนาคตใหม่ อนาคตที่ดีกว่าเดิมได้ปรากฏแล้วทันทีหลังจากข่าว “เลิกอุ้ม” การบินไทยออกไป พบว่าหุ้นไม่ได้ตก แต่สูงขึ้นมากแบบชน Ceiling 2 วันติด (ร่วม 30%) เพราะตลาดจับสัญญาณได้ชัดเจนว่าการบินไทยจะไม่เป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป แต่จะผันตัวมาเป็นเอกชนมากขึ้น อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
พรรคก้าวไกลสนับสนุนแนวทางนี้และได้ให้คำแนะนำไว้ตั้งแต่ก่อนการประชุม คนร. (18 พ.ค.) และ ครม. (19 พ.ค.) เพื่อดักทางเอาไว้แล้วว่า
(1) ให้มืออาชีพจริง ๆ เข้ามาผ่าตัด ไม่เอาพวกที่เป็นเครือข่ายการสืบทอดอำนาจเข้ามาโดยเด็ดขาด
(2) ไม่ถ่วงเวลาโดยบอกว่าต้องทำโน่นนี่นั่นก่อน แล้วสุดท้ายเอาเงินภาษีไปอุ้มอยู่ดี เพราะตอนนี้สภาพคล่องของการบินไทยได้หมดลงแล้ว
(3) ต้องไม่มีไอ้โม่งมารอฮุบกิจการ แต่ต้องเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาร่วมวงได้อย่างเสรีและเป็นธรรม
(4) ในการฟื้นฟูกิจการ จะมีทางออกได้ 3 ทางในแง่ของความเป็นเจ้าของการบินไทย อันจะส่งผลต่อการบริหารจัดการในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ (ก) เป็นเอกชนมากขึ้น (ข) คล้ายเดิม และ (ค) เป็นรัฐมากขึ้น
พรรคก้าวไกลอยากให้รัฐบาลคิดอย่างรอบคอบ โดยเราเห็นว่ารัฐควรมีความเป็นเจ้าของเพียง 0-25% เพื่อปราศจากการครอบงำหรือแทรกแซงโดยนักการเมืองหรือทหารการเมือง เราอยากเห็นการบินไทยมีมืออาชีพเข้ามาทำงานแทนเครือข่ายของผู้มีอำนาจ กองทัพ และข้าราชการ จึงจะหลุดพ้นจากวงจรขาดทุน โดยไม่ต้องนำเงินภาษีไปอุ้มอีกต่อไป
พรรคก้าวไกล จะดูแลการใช้เงินภาษีของพี่น้องประชาชนต่อไปและขอให้ทุกคนช่วยกันในการตรวจสอบการใช้เงินภาษีของพวกเราให้เป็นไปอย่าง “คุ้มค่าและโปร่งใส” ดังเช่นที่พวกเราได้ร่วมกันทำสำเร็จแล้วในกรณีของการบินไทย