ชัยชนะ ลั่น! น่าผิดหวัง “เรือนจำ – รพ.ราชทัณฑ์ – รพ.ตำรวจ” ตอบไม่ตรงกัน ปม อาการป่วย ‘ทักษิณ’ เตรียมไปเยี่ยมชั้น 14
เป็นเวลากว่า115 วัน ที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรี หรือนักโทษชาย เข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ หลังถูกตัดสินจำคุก ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีเรื่องให้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง เมื่อการดูแลนักโทษคนนี้ ต่างจากนักโทษคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด และยังมีอีกหลายข้อมูลที่ไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างถูกต้อง แท้จริง
วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการตำรวจ ประชุมคณะกรรมาธิการ โดยมีการขอให้ตรวจสอบว่า นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษชายที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในตอนนี้ยังคงอยู่ที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ พร้อมขอให้ตรวจสอบกระบวนการรับเข้า วิธีการพิจารณาส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และการคุมขังของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่าเป็นไปตามกฎระเบียบหรือไม่
โดยในที่ประชุมวันนี้ มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมด้วย เช่น พล.ต.ต.สามารถ ม่วงศิริ ตัวแทนโรงพยาบาลตำรวจ ตัวแทนกรมราชทัณฑ์ ผอ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ รักษาการ ผอ.รพ.ราชทัณฑ์ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการด้วย
นายวัชระ กล่าวชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ว่า ตนเองได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการตำรวจ เพื่อให้ ตรวจสอบว่าโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ยังมีนายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ตลอดเวลา นับตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมจนถึงวันนี้จริงหรือไม่ และขอให้ตั้งคณะอนุกรรมมาธิการเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจและสงสัย ไม่เชื่อว่านายทักษิณยังรักษาตัวอยู่ที่นั่น
ต่อมา นายชัยชนะ เดชเดโช ประธาน กมธ.ตำรวจ แถลงข่าวภายหลังการประชุม ระบุว่า หลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเด็นที่รับตัว นช.ทักษิณ ชินวัตร เข้าเรือนจำมีวิธีการอย่างไร การส่งตัวนักโทษไปโรงพยาบาลมีวิธีการวินิจฉัยอย่างไร กรมราชทัณฑ์มี รพ.แม่ข่ายอย่างไรบ้าง งบประมาณใช้รักษานักโทษ นช.ทักษิณ เดินทางจากศาลมาเรือนจำทำไมไม่นั่งรถของเรือนจำ
นายชัยชนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังที่ไม่สามารถได้คำตอบที่ชัดเจนจากกรมราชทัณฑ์ได้เลย ซึ่งกรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่าเมื่อเข้าสู่เรือนจำวันแรกต้องมีการกักตัว 5-10 วัน ตามมาตรการ COVID-19 ซึ่ง นช.ทักษิณ ถูก ส่งตัวไปคืนนั้นโดยแพทย์ รพ. ราชทัณฑ์ ระบุว่า ไม่ได้วินิจฉัยให้ส่งตัวไป รพ.ตำรวจ เป็นเพียงการปรึกษาหารือแพทย์ตอนกลางคืนของพยาบาล และแพทย์ได้แสดงความเห็นว่า รพ.ราชทัณฑ์ ไม่น่าจะมีศักยภาพเพียงพอ จึงทำการส่งตัวตามธรรมเนียมปฏิบัติ คือ รพ.แม่ข่ายของกระทรวงสาธารณสุข ใช้งบประมาณ สปสช. รักษาดูแล แพทย์ยืนยันว่าไม่ใช่การวินิจฉัยให้ส่งตัว แต่เป็นอำนาจของ ผบ.เรือนจำ
นายชัยชนะ ยังกล่าวต่อว่า ในวันนี้ กรมราชทัณฑ์ ตอบคำถามไม่ได้ ว่าทำไมไม่กักตัว ทำไมทักษิณไม่ต้องตัดผม ทำไม นช.ทักษิณ ต้องอยู่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 กมธ.และ ผู้ร้อง เห็นว่า ผู้มาตอบไม่สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน และคลายข้อสงสัยให้กับผู้ร้องและประชาชนได้ จึงจะทำหนังสือเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มาชี้แจงข้อมูลให้กับ กมธ.อีกครั้ง และเมื่อชี้แจงเป็นที่ประจักษ์แล้ว กมธ.พร้อมเดินทางไป รพ.ตำรวจ ช่วงหลังปีใหม่ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่านายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวที่นั่นจริงหรือไม่ หวังว่าจะเป็นของขวัญวันเด็กได้ทัน
นายชัยชนะ กล่าวว่า แค่คำถามว่าทำไมไม่กักตัวนายทักษิณไว้ก่อน ก็ตอบไม่เคลียร์การขอความเห็นแพทย์วินิจฉัยอย่างไรจึงต้องส่งตัวไปโรงบาลตำรวจก็ไม่เคลียร์ และทำไมนายทักษิณเดินทางมาเรือนจำโดยรถส่วนตัวไม่ใช่รถเรือนจำก็ยังไม่สามารถตอบได้
นายชัยชนะ ยังเผยว่า ผู้มาชี้แจงมักตอบคำถามไม่ตรงกัน เช่น ทำไมต้องเป็นโรงพยาบาลตำรวจ ผบ.เรือนจำ บอกว่า กรมราชทัณฑ์มี MOU กับ รพ.ตำรวจ แต่ฝ่ายวิชาการ กรมราชทัณฑ์ บอกว่าไม่มี MOU ใช้โรงพยาบาลแม่ข่ายที่ขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุข หรือ ผบ.เรือนจำ บอกว่าการส่งไป รพ.ตำรวจเป็นไปตามคำวินิจฉัยของแพทย์ แต่แพทย์ รพ.ราชทัณฑ์บอกว่า ไม่ได้วินิจฉัย เพียงให้ความเห็นกับพยาบาลว่า รพ.ราชทัณฑ์มีอุปกรณ์อะไรบ้าง และให้ปรึกษาพัสดีว่าสมควรนำไปรักษาตัวที่ไหนหรือไม่
