นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk ระบุถึงการดีเบตในรายการ “ถามตรงๆ กับจอมขวัญ” ว่า จัดมาแล้วมวย 4 คู่ ซึ่งก็เห็นปัญหาเลยว่า ตัวแทนที่สนับสนุนรัฐบาลนั้น อยู่ในสภาพฝ่ายที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องพูดก็ชนะอยู่แล้ว
เพราะที่แสดงออกมานั้น สะท้อนให้เห็น ถึงวุฒิภาวะ ทั้งเนื้อหา เรื่องอารมณ์ และในซีกรัฐบาลก็ช่างคัดหาคน ที่มีลักษณะพันธุ์อย่างว่า ความชอบธรรมยิ่งจมหาย การแสดงวุฒิภาวะที่ต่ำกว่า ไม่ว่าเรื่องน้ำเสียง ท่วงทำนองอารมณ์ จนกระทั่งเนื้อหา ก็เป็นเรื่องที่คนรับไม่ได้ ความชอบธรรมความระหว่างทางอารมณ์ หายไปตามลำดับ
ยิ่งใช้อารมณ์ว่าตัวเองอายุมากกว่า ใช้เสียงดังเพราะตัวเองแก่กว่า แต่เนื้อหาต่ำกว่าอายุ เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องความระบาดทางอารมณ์ของสังคมไทย ฝ่ายรัฐบาล ช่างสรรหาคนมาลักษณะอย่างนี้ มันก็เป็นชนิดที่เดินสะดุดมีดปักอกตัวเองทั้งนั้น ไม่มีใครจะต้องไปแทงเลย เพราะการแสดงออกมันติดลบ
ความจริงภาพติดลบอยู่แล้วพอแสดงออกยิ่งชัดเจน ครบถ้วนทุกเรื่องราว ผมก็ดูมาบ้าง ก็เลยเห็นอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายนักเรียนนิสิต นักศึกษาความจริงหลายคนก็จบแล้ว เขาใช้ความมีวุฒิภาวะที่เหนือกว่า ซึ่งความจริงคนที่มีอายุมากกว่า ควรจะใช้วุฒิภาวะที่มากกว่า แต่อายุยิ่งมากวุฒิภาวะยิ่งลดลง แล้วจะกี่คู่ก็โทรหามลงเวทีมาทั้งสิ้น ไม่ใช่อีกฝ่ายหนึ่งจะเก่งกว่า แต่อีกฝ่ายหนึ่งใช้ไม่ได้ ไม่มีสภาพที่จะขึ้นเวที
ความจริง ถ้ามีการเตรียมการกันอย่างดี และพูดกันด้วยเหตุด้วยผล ไม่ได้พูดฐานะที่แก่กว่า แต่ใช้เหตุผลในการหักล้างซึ่งกันและกัน พูดทำนองอาจจะเรียกเรทติ้งในสังคมน้ำเน่า เสียงดังฟังชัดแบบนี้กว่าคนอาจจะเข้าใจผิดว่า การที่คนมาดูมากจะเกิดความสำเร็จ แต่ในสายตาผมเกิดความเสียหาย
“4 คู่ แทบไม่ต้องให้คะแนนกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว พูดตรงไปตรงมา ทำเนื้อหาสาระหักล้างกันในแต่ประเด็น ซึ่งก็จะเป็นสาระต่อบ้านเมือง แต่พอขึ้นอารมณ์กันมานั้น ท้ายที่สุดเป็นความระหว่างทางอารมณ์ ไม่มีเนื้อหาอะไร ไปถามคุยเรื่องอะไร คนพูดจะจำได้หรือเปล่า ซึ่งไม่ใช่เป็นประเด็นทางออกอะไรเลย เพราะฉะนั้น ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลและผู้สนับสนุนรัฐบาลนั้น สาละวันเตี้ยลงจริงๆ เพราะไม่ได้สู้ด้วยเหตุผล แต่พูดด้วยเชื่อว่าตัวเองมีอายุมากกว่า”
ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าผิดพลาดไปครั้งใหญ่ แล้วถ้ายังเดินอย่างนี้ต่อไป เชื่อว่าแทบไม่ต้องทำอะไร มีดวางไว้เดินสะดุดมีดเองโดยที่ไม่มีใครไปทำอะไร แล้วก็จะยิ่งสร้างปัญหาเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นอย่างที่ตนบอกไปนั่งเฉยๆก็ชนะแล้วโดยไม่ต้องพูด ให้อีกฝ่ายหนึ่งสำแดง เต็มที่ ยิ่งเกรี่วกราดข่มขู่ไปข่มขู่มาไม่ชนะหรอก แบบนี้ยิ่งแพ้มากยิ่งขึ้น เพราะคนจะมีความรู้สึกว่ามันมากเกินไป จึงอยากบอกว่าบรรยากาศของบ้านเมืองวันนี้สมานฉันท์คือความไม่สมานฉันท์