ล็อกดาวน์ —- จากกรณีที่เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2564 กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ให้พิจาณาให้ยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีการระบุว่า มาตรการครั้งนี้จะใช้เวลาประเมิน 14 วัน ตามระยะฝักตัวของโรค ซึ่งจะมีมาตรการจำกัดการเดินทาง งดออกจากเคหสถาน หากไม่จำเป็น ยกเว้นไปหาอาหาร พบแพทย์ และฉีดวัคซีน ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด และปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมดและจะมีความเข้มข้นเท่ากับหรือไม่น้อยกว่า มาตรการล็อกดาวน์ ที่มีการประกาศใช้เมื่อเดือน เม.ย.2563
ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูมาตรการล็อกดาวน์ เมื่อเดือน เม.ย.2563 มีดังนี้
-ห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่่ 22.00 น. – 04.00 น.
– ปิดสถานที่เสี่ยง อาทิ ผับ สถานบริการ สนามมวย สนามกีฬา สถานประกอบการ อาบ อบ นวด และนวดแผนโบราณ สปา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลได้แก่ จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร (สถานที่อื่นให้พิจารณาโดยสั่งปิดเฉพาะส่วน หรือทั้งหมด ตามความจําเป็นและเหมาะสม)
– ปิดช่องทางเข้าประเทศ ทั้ง อากาศยาน เรือ รถยนต์ หรือพาหนะอื่นใด ทั้งทางบก อากาศ และทางน้ำ
– ห้ามกักตุนสินค้า ยา เวชภัณฑ์ อาหาร น้ําดื่ม และสินค้าจำเป็นต่ออุปโภคบริโภค ในชีวิตประจำวัน
– ห้ามชุมนุม ทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน
– ห้ามเสนอข่าวเท็จ ที่ทําให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว
– งดการเดินทางข้ามจังหวัด
นอกจากนี้ ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 22) ได้ประกาศเพิ่มเติมว่า
1.ให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าเพื่อป้องกันการแพร่โรคเมื่ออยู่เคหสถานหรืออยู่ในที่สาธารณะ
2.ร้านจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ลักษณะนำกลับ งดบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุรา ที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน และเปิดถึงเวลา 21.00 น.
3.กำหนดพื้นที่ควบคุม และงดเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ เรียกประชุมด่วน! พิจารณา ล็อกดาวน์ เต็มรูปแบบพรุ่งนี้ ลุ้นอาจมีประกาศเคอร์ฟิว-ปิดห้าง
สธ.เสนอ ศบค. ล็อกดาวน์ 14 วัน จำกัดการเดินทาง ปิดสถานที่เสี่ยง ลดโควิด19 ระบาด
พญ.อภิสมัย ยืนยัน “ไม่มีคำว่าล็อกดาวน์” แต่ปรับมาตรการเข้นข้นขึ้น อยู่บ้าน ลดการเคลื่อนย้าย