จากรณีที่ นายปกรณ์วุฒิ สส.พรรคก้าวไกล ได้แถลงการ ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ ป.ป.ช. หลังพบหลักฐานใหม่ “ศักดิ์สยาม” ยังมีหนี้สินคงค้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ในวันที่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี และไม่ได้เปิดเผยในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.
วันนี้ (25 ก.ค. 66) ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดหลักฐานเพิ่มเติมคดีซุกหุ้นจนนำมาสู่การที่ศาลสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า ไม่มีอะไร เรามีเอกสารหลักฐานยืนยัน ซึ่งตนไม่ได้มีหุ้นดังกล่าวตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2562 เดี๋ยวจะให้ทีมกฎหมายรวบรวมข้อมูล แล้วชี้แจงกับสื่อมวลชนอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ส่วนสถานที่จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง พร้อมย้ำว่าตนเองมีหลักฐานชัดเจน เพราะการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ต้องตรวจให้เรียบร้อย และยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะ ยิ่งต้องทำให้ดี
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ว่าเหตุใดจึงมีการแถลงข่าวอีกครั้ง หลังจากที่เรื่องผ่านไปนานแล้ว อาจเป็นเพราะพรรคภูมิใจไทย จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าต้องถามคนที่ตั้งประเด็น ซึ่งเรามีหน้าที่ชี้แจง เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และเราก็เชื่อมั่นในกระบวนการ
ส่วนบริษัท ที่นายศักดิ์สยามถือหุ้น ไปรับงานของรัฐบาลนั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวกัน ซึ่งขณะนั้นเป็นตอนที่ตนเคยบริหาร การประมูลงานของรัฐ เป็นการดำเนินการตามระเบียบพัสดุอยู่แล้ว เมื่อมีการประกวดราคา บริษัทที่มีคุณสมบัติก็มีหน้าที่ไปซื้อแบบแล้วเข้าประมูลโดยวิธี E- Bidding ไม่ใช่วิธีพิเศษอะไร เพราะฉะนั้นบริษัทที่ได้งานในประเทศไทยมีไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ถ้ามีคุณสมบัติ และยื่นตามกระบวนการที่ถูกต้องแล้วได้งานชนะ ก็เป็นความชอบธรรมของเขาในการดำเนินการ ขออย่ามาบอกว่าเป็นของใคร และตนขอยืนยันว่าตนไม่มีข้อเกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ตั้งแต่ปี 2562 และไม่กังวลใดๆ เพราะการตรวจสอบบุคคลสาธารณะเป็นเรื่องปกติ
นายศักดิ์สยาม ระบุอีกว่า ที่ผ่านมาเมื่อศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ เรามีหน้าที่รวบรวมข้อมูลไปชี้แจง ส่วนที่เรื่องช้าเพราะเข้าใจว่าเอกสารของผู้ยื่นร้อง มีจำนวนมากกว่า 600 หน้า แต่ละข้อก็ต้องไปรวบรวมเอกสารมาชี้แจงเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งก็มีเป็นหลัก 1,000 หน้า แต่ยืนยันว่ามีความพร้อมในการชี้แจงทั้งหมด
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็เป็นหน้าที่ของพรรคอันดับ 3 อย่างภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้ชี้แจงแล้ว ว่าพรรคภูมิใจไทยยึดมั่นในหลักการ สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นของพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่งก่อน แต่ถ้าพรรคอันดับ 1 ไม่ได้ก็ต้องเป็นพรรคอันดับ 2 และถ้าพรรคอันดับ 2 จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ต้องเป็นพรรคอันดับที่ 3
ซึ่งถ้าหากไปตรวจสอบการจัดตั้งรัฐบาลในอดีต พรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินเสียงในระบบทั้งหมดก็ได้เป็นรัฐบาล โดยปี 2562 ก็เป็นแบบนั้น และถ้าย้อนไปตั้งแต่สมัยหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มี 18 เสียงก็เป็นนายกฯ ได้ เพราะฉะนั้นการจะอ้างอะไรต้องพูดให้ครบ ตอนนี้ก็ขอให้รอดีกว่า
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY